เปิดที่มา "ฮากา" ศิลปะแห่งการข่มขวัญคู่ต่อสู้ของนักรักบี้ทีมชาตินิวซีแลนด์

11-07-2022
2นาทีที่อ่าน

ทุกครั้งเราดูรักบี้ทีมชาตินิวซีแลนด์ลงสนาม เราจะรู้สึกกลัว, น่าสงสัย และเฉยๆ ปะปนทุกครั้ง เมื่อเห็นเต้นฮากา ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงของชาวเมารี ที่ผู้เล่นนิวซีแลนด์เต้นทุกครั้งก่อนลงสนาม

ฮากาได้พัฒนาจากการข่มขวัญคู่ต่อสู้ในสนามรบสู่การฉลองวันเกิด และกลายเป็นสัญลักษณ์ของนิวซีแลนด์ได้อย่างไร? The Sporting News มีคำตอบ

ความภาคภูมิใจแห่งชาวเมารี

เว็บไซต์การท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ได้ระบุไว้ว่า ฮากาเป็นการแสดงของชาวเมารีเพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ในสงคราม นิยมแสดงเป็นหมู่คณะเพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจ, ความแข็งแกร่ง และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ตามตำนานเมารี กล่าวไว้ว่า ทามานุยเทร่า เทพแห่งดวงอาทิตย์ และฮิเน เรามาติ ภรรยา ได้สร้างลูกชายชื่อทาเนโรเรในช่วงฤดูร้อน โดยทาเนโรเรเต้นให้แก่แม่ของเขาในฤดูร้อน ซึ่งกลายเป็นที่มาของฮากา 

ผู้เต้นจะต้องกระทืบเท้า, แลบลิ้น, ตบร่างกายและร้องเพลงระหว่างแสดงฮากา ซึ่งเนื้อเพลงดั้งเดิมอธิบายความเป็นมาของชนเผ่าผ้่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆ โดยการแสดงฮากาทำได้ทั้งในยามสงบ เช่น งานแต่งงาน และยามสงคราม

 

 

สัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่ง

นักรักบี้ทีมชาตินิวซีแลนด์เต้นฮากาโดยใช้เพลง “คา มาเต” ที่แต่งโดยเต เราปาราฮา หัวหน้าเผ่างาติ โตอา โดยเนื้อหาเพลงนี้เกี่ยวกับการเฉลิมฉลองชีวิตที่เอาตัวรอดจากความตาย 

การแสดงฮากาใช้เพื่อแสดงความแข็งแกร่งและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก่อนเกม ซึ่งฝ่ายหญิงก็มีการแสดงฮากาโดยใช้เพลง “โค อูเฮีย ไม” 

 


การแสดงฮากาประกอบด้วยการตะโกนเสียงดัง, กระทีบเท้า, ตบตัว, จ้องด้วยสายตาน่ากลัวและแลบลิ้นก่อนแข่ง

MORE: Video: All Blacks haka as you've never heard it before

อยู่หรือตาย

ท่อนหลักของเนื้อเพลงคา มาเต ประกอบการแสดงฮากามีความหมายว่าดังนี้

“ฟังให้ดี เตรียมตัวไว้ กุมอาวุธให้มั่น” จากนั้นเอามือตบน่อง กระทืบเท้าให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้

“จะอยู่หรือตาย นั่นเป็นมนุษย์ขนผู้เรียกดวงอาทิตย์และแสงสว่าง เดินขึ้นไป เดินขึ้นไป ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว”

Getty Images

Scroll to Continue with Content

 

ไม่ได้มีแค่รักบี้

นอกจากทีมรักบี้ชายและหญิงที่แสดงฮากาแล้ว ทีมฮอกกี้ก็เคยแสดงฮากา เช่นเดียวกันกับนักกีฬานิวซีแลนด์ที่เคยเต้นฮากาต่อหน้าพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่ 2 ในงานคอมมอนเวลธ์เกมส์เมื่อปี 2002 มาแล้ว

 


นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬาปาเป้านิวซีแลนด์ที่เคยแสดงฮากาในงานชิงแชมป์โลกที่พบกับทีมชาติออสเตรเลียเมื่อปี 2013 อีกด้วย

ไม่จำเป็นต้องแสดงก่อนแข่งกีฬา

ฮากาเป็นการแสดงเพื่อให้เกียรติบุคคลฝนโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานแต่งงานและงานศพ 

เมื่อพระราชินีเอลิซาเบ็ธสวรรคต ชาวนิวซีแลนด์ได้แสดงฮากาเพื่อถวายความอาลัย 

เว็บไซต์การท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ ได้ระบุไว้ว่า ชาวนิวซีแลนด์ที่ไม่ใช่ชาวเมารีต่างเรียนรู้ที่จะแสดงฮากาเพื่อแสดงความเคารพต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น

“การเรียนรู้ผ่านถ้อยคำและตัวอักษรจะทำให้คุณเข้าใจความหมายและความสำคัญของฮากา รวมไปถึงสีหน้าของคุณเมื่อทำการแสดง” ข้อความในเว็บไซต์

วิธีตอบโต้ฮากาจากชาติต่างๆ

มีหลายทีมที่พยายามแสfดงปฏิกิริยารับมือฮากาแตกต่างกันไป

ทีมชาติออสเตรเลียไม่สนใจฮากาและทำการวอร์มอัพต่อไป ในเกมรักบี้ไตรเนชันส์เมื่อปี 1996 สุดท้ายเป็นนิวซีแลนด์ที่หัวเราะทีหลังดังกว่าด้วยการถล่มออสเตรเลียขาดลอย 43-6 

ทีมชาติเวลส์คล้องแขนกันไว้และหลีกเลี่ยงการสบตาในปี 2008

ทีมชาติฝรั่งเศสถูกปรับ ขณะบุกเข้าหาทีมชาตินิวซีแลนด์ระหว่างการแสดงในรายการชิงแชมป์โลกปี 2011 เช่นเดียวกันกับทีมชาติอังกฤษที่เข้าหาระยะ 10 เมตรในรายการชิงแชมป์โลกอีก 8 ปีต่อมา

 

 

องค์กรรักบี้โลกรายงานว่า อังกฤษทำลาย “พิธีการทางวัฒนธรรม” โดยยืนเข้าหาเป็นรูปตัว V ขณะการแสดงฮากา

“เรารู้ว่าเราอยู่ในรัศมีของพวกเขา แต่เราไม่อยากเข้าหาเขา และอยากให้เขาเดินเข้ามาหาเรา เราเว้นระยะให้พวกเขา แต่เราไม่อยากยืนเป็นแถวหน้ากระดาน” โอเว่น ฟาร์เรลล์ กัปตันรักบี้อังกฤษกล่าว

แผนการของทีมชาติอังกฤษได้ผล ด้วยการเอาชนะนิวซีแลนด์ไปได้ 19-7 ในรอบรองชนะเลิศ

มีหลายคนแนะนำให้ทีมชาตินิวซีแลนด์หยุดแสดงฮากา เพราะสนามรักบี้ไม่มีที่ว่างให้กับการแสดงออกทางวัฒนธรรม ถึงแม้ว่าจะมีหลายคนไม่เห็นด้วยก็ตาม

แม้ใครจะมองว่าฮากาเป็นอย่างไร แต่ฮากาเปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของรักบี้ทีมชาตินิวซีแลนด์ที่ช่วยให้คว้าแชมป์โลก 3 ครั้งในปี 1987, 2011 และ 2015

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก