ไขข้อสงสัย : ทำไม ไค ฮาเวิร์ตซ์ ถึงไม่โดนใบแดงหลังพุ่งชน โรดรี้

09-23-2024
2นาทีที่อ่าน
getty images

พรีเมียร์ลีก บิ๊กแมตช์ที่หลายคนรอคอยจบลงด้วยผลเสมอระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่เจ๊า อาร์เซนอล จากการทำประตูไวของ เออร์ลิง ฮาลันด์ ตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นโดน "ปืนใหญ่" รัวยิงแซงก่อนเป็น “เรือใบสีฟ้า” กลับมายิงตีเสมอช่วงท้าย 2-2

แต่เหตุการณ์ที่เรียกความสนใจเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของเกม การปะทะกันระหว่าง ไค ฮาเวิร์ตซ์ และ โรดรี้ ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าเหตุใดแนวรุกชาวเยอรมันรายนี้จึงไม่ถูกใบแดงหลังจากการปะทะครั้งนี้

ล่าสุด พรีเมียร์ลีก ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุผลที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ไม่โดนใบแดงจากจังหวะดังกล่าว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร? ติดตามไปพร้อมกันที่นี่เลย

การตัดสินของ VAR

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ห้อง VAR เผย ไค ฮาเวิร์ตซ์ ไม่ได้ทำผิดกติกาหลังวิ่งชนเข้าใส่ โรดรี้ จนล้มลงไปกองกับพื้น เป็นเพียงการปะทะกันแบบปกติ 

แม้ว่าการแข่งขันนี้จะเป็นการเจอกันระหว่างสองทีมใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการแข่งขันชิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่เกมกลับเริ่มต้นด้วยความตึงเครียดตั้งแต่เริ่มต้น 

หลังจากการเตะเริ่มเกมเพียงสามวินาทีแรก โรดรี้ กองกลางตัวรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ล้มลงบนพื้นสนามและจับใบหน้าของเขา ภาพรีเพลย์แสดงให้เห็นว่า ไค ฮาเวิร์ตซ์ จากอาร์เซนอลได้ชนกับโรดรี้ขณะวิ่งออกจากเส้นครึ่งสนาม

Scroll to Continue with Content

ในจังหวะนั้นเอง ผู้บรรยายชื่อดังของ Sky Sports อย่าง แกรี่ เนวิลล์ และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ได้พูดคุยถึงเหตุการณ์นี้ โดยตั้งข้อสงสัยว่า ฮาเวิร์ตซ์ มีเจตนารุนแรงหรือไม่?

รับเครดิตฟรี ที่ M88 คลิก

เพราะหากพบว่าเป็นการตั้งใจ ฮาเวิร์ตซ์ อาจต้องถูกใบแดงและถูกไล่ออกจากสนามทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินโอลิเวอร์เลือกที่จะรอการตรวจสอบจากห้อง VAR ที่ จอห์น บรู๊คส์ เป็นผู้ดูแล

หลังจากตรวจสอบแล้ว บรู๊คส์ ได้ตัดสินว่าไม่มีการกระทำผิดกติกา โดยเหตุผลหลักคือเป็นการ "การปะทะกันตัวต่อตัว" หรือเรียกว่า "ทั้งคู่วิ่งเข้าหากัน" และไม่มีการกระทำรุนแรงหรือเจตนาในการทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บ เพราะทั้งสองต่างวิ่งเข้าหากัน จึงไม่ถือเป็นความผิดที่สมควรให้ใบแดง

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand