เปิดประวัติ โจชัว เซิร์กเซ : ความหวังใหม่ในแดนหน้าของแมนยู

09-02-2024
3นาทีที่อ่าน
Getty Images

เปิดประวัติ โจชัว เซิร์กเซ : ความหวังใหม่ในแดนหน้าของแมนยู

แม้จะยังโชว์ฟอร์มได้ไม่ร้อนแรงเท่าไหร่ แต่ทาง โจชัว เซิร์กเซ ศูนย์หน้าที่พึ่งถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวเข้ามาร่วมทีมในฤดูกาล 2024-2025 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความหวังและทางเลือกใหม่ของทีมในแดนหน้า

ซึ่งตัวเขาเองนั้นมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างออกไปจากกองหน้าที่ทัพปีศาจแดงนั้นมีอยู่อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ และในขณะที่ดาวยิงชาวเดนมาร์กยังไม่สามารถกลับมาลงสนามได้ เซิร์กเซ เองก็คงจะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองไปยาว ๆ ในช่วงนี้

โดยในวันนี้ก็จึงอยากจะพาทุกท่านไปรู้จักกับนักเตะรายนี้กันให้มากขึ้น ว่าผลงานที่ผ่านมาของเขาเป็นอย่างไร เคยเล่นให้กับสโมสรไหนมาบ้าง? ไปติดตามกับทาง The Sporting News Thailand  ได้ที่นี่เลย

ห้ามพลาด! ลุ้นโชคทายผลบอลพรีเมียร์ลีก

ประวัติส่วนตัวของ โจชัว เซิร์กเซ

  • ชื่อเต็ม : โจชัว โอโรโบซา เซิร์กเซ
  • สัญชาติ : เนเธอร์แลนด์
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • วันเกิด : 22 พฤษภาคม 2001
  • อายุ : 23 ปี
  • ส่วนสูง : 193 เซนติเมตร

เส้นทางของ โจชัว เซิร์กเซ

โจชัว เซิร์กเซ เกิดที่เมืองสกีดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ปี กับสโมสรที่ชื่อว่า วีวี เฮเกลิงเกน หลังจากครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ที่เมือง สไปเกอนิสเซอ และจากการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม ในปี 2010 เซิร์กเซ ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในชุดเยาวชนของทีม สปาร์ตัน '20 ซึ่งเป็นที่ที่เขาได้ร่วมเล่นกับลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อว่า เนลสัน อามาดิน จากนั้นในปี 2013 ก็ย้ายไปอยู่กับ เอดีโอ เดน ฮาก ก่อนจะมาลงเอยที่อคาเดมีของ เฟเยนูร์ด ในปี 2016 และเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น เซิร์กเซ ก็ถูกดึงตัวไปอยู่ในชุดเยาวชนของ บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน

ในปี 2019 จะเรียกว่าเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของ เซิร์กเซ เลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับ บาเยิร์น มิวนิค ทีมสำรอง ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2019 นักเตะชาวเนเธอแลนด์รายนี้ก็ได้ลงประเดิมสนามให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยเกมดังกล่าวเกิดขึ้นในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ทัพเสือใต้พบกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

อีกไม่กี่วันถัดมา จะเรียกว่าเขาเป็นฮีโรของทีมเลยก็ว่าได้ เพราะ เซิร์กเซ ลงมายิงประตูนำ 2-1 ในช่วงนาทีที่ 90 ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในเกมที่เอาชนะ ไฟร์บวร์ก 3-1 ซึ่งในนัดถัดมาเขาเองก็กลายเป็นคนทำประตูชัยอย่างแท้จริงให้กับทัพเสือใต้ในเกมที่ชนะ โวล์ฟสบวร์ก และในช่วงท้ายฤดูกาล 2019-2020 เขาเป็นคนทำประตูเปิดหัวให้กับทีมในเกมที่ บาเยิร์น มิวนิค เฉือนชนะ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค 2-1 โดยเป็นที่รู้กันดีว่าฤดูกาลดังกล่าวทัพเสือใต้นั้นจบด้วยการสร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 แชมป์ได้อีกครั้ง ซึ่ง เซิร์กเซ เองก็มีส่วนร่วมอย่างมากกับทีมชุดนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดประวัติ มานูเอล อูการ์เต้ : กลางรับจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายในยุคเทนฮาก

แต่แล้วการที่จะอยู่ต่อกับทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค กลับไม่เป็นดังหวัง เมื่อในฤดูกาล 2020-2021 เซิร์กซี นั้นถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับทีมในกัลโช เซเรียอา อย่าง ปาร์มา ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2021 ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนถัดมาเขาก็ได้รับบาดเจ็บจนต้องปิดเทอมไป เขาเองได้ลงสนามให้กับ ปาร์มา ไปเพียงแค่ 4 เกมเท่านั้น ซึ่งเป็นการลงเล่นในฐานะตัวสำรองทั้งหมด

Scroll to Continue with Content

จากนั้นในฤดูกาล 2021-2022 เขาถูกส่งให้ อันเดอร์เลชท์ ทีมจากลีกเบลเยียมยืมตัวไปใช้งานตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่ง เซิร์กเซ เองก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยยิงไปทั้งหมด 16 ประตู พร้อมด้วย 9 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 34 นัด คว้าตำแหน่งดาวยิงประจำสโมสรไปครอง

หลังจากการโชว์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ในฤดูกาล 2022-2023 เซิร์กเซ นั้นก็ถูก โบโลญญา ทีมจากอิตาลีดึงตัวไปร่วมทัพแบบถาวร แน่นอนว่าในฤดูกาลดังกล่าวฟอร์มของเขายังไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก แต่ในฤดูกาลถัดมาเรียกได้ว่าเป็นปีที่เขาแจ้งเกิดอย่างแท้จริง ซึ่งภายใต้การคุมทัพของ ติอาโก้ ม็อตต้า กุนซือชาวอิตาลี เซิร์กเซ กลายเป็นส่วนหนึ่งที่พาทีมได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในรอบ 59 ปี ซึ่งเขาทำไปทั้งหมด 11 ประตู และ 5 แอสซิสต์ให้กับ โบโลญญา ในฤดูกาลดังกล่าว 

ลุ้นรางวัลใหญ่! ทายผลบอลแมนยู

แน่นอนว่าฟอร์มสุดร้อนแรงนี้ทำให้ยักษ์ใหญ่จากอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมควักเงินราว 36.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.6 พันล้านบาท) เพื่อคว้าตัว เซิร์กเซ มาร่วมทีม แน่นอนว่าเขากลายเป็นคนยิงประตูชัยให้กับทีมได้ในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ที่ทัพปีศาจแดงเอาชนะ ฟูแลม ไป 2-1 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2024

สำหรับการติดทีมชาติของ เซิร์กเซ เขาเริ่มเล่นให้กับ เนเธอร์แลนด์ มาตั้งแต่ปี 2016 โดยไล่มาตั้งแต่ชุด U15, U16, U17, U18, U19 และ U21 จนในปี 2024 เขาก็ได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ซึ่งเป็นการติดทัพไปลุยในศึกยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมัน

โดยโค้ชอย่าง โรนัลด์ คูมันน์ เรียกเขาไปติดทีมหลังจากที่สองนักเตะอย่าง เฟรงกี้ เดอ ยอง และ เทิน คูปไมเนอร์ส ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกจากทัวร์นาเมนต์ ซึ่งในศึกยูโร 2024 เซิร์กเซ ก็ได้ลงประเดิมสนามให้กับทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ เนเธอร์แลนด์ เอาชนะ ตุรกี ไป 2-1

บทความที่เกี่ยวข้อง : บทวิเคราะห์ : แมนยูจะจัดตัวยังไงเมื่อได้ มานูเอล อูการ์เต้?

รับเครดิตฟรี ที่ M88 คลิก

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand