เกิดอะไรกับแบดมินตันไทย? หลังพลาดเหรียญสุธีรมาน คัพ 2 ปีซ้อน

05-19-2023
2นาทีที่อ่าน
Badminton Association of Thailand

เส้นทางของทีมแบดมินตันทีมชาติไทยในศึกการแข่งขันแบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์โลกหรือรายการสุธีรมาน คัพ (Sudirman Cup) ประจำปี 2023 ณ เมืองซูโจว ประเทศจีน จำเป็นต้องสิ้นสุดลงในรอบควอเตอร์ไฟนอลหรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองแดง 3 สมัย (2013, 2017 และ 2019) ต้องพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติญี่ปุ่นดีกรีรองแชมป์เก่าไป 2-3 แมตช์ พลาดโอกาสการขึ้นโพเดียมไปอีกสมัย และเป็นการชวดการขึ้นโพเดียมเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

อะไรคือสาเหตุแห่งความผิดหวังของทีมชาติไทยในครั้งนี้ ติดตามอ่านได้ในบทความนี้กันครับ

เสียแต้มต่อเพราะขาดชายคู่มืออาชีพ

เป็นที่ทราบกันดีว่าตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้น วงการแบดมินตันไทยยังขาดมือชายคู่อาชีพที่สามารถลงทำการแข่งขันและสร้างผลงานในระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ (BWF World Tour) ได้แบบสม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อใดที่ทีมชาติไทยลงแข่งขันในประเภททีมทั้งรายการโธมัส คัพ (Thomas Cup) และสุธีรมาน คัพ หรือในระดับมหกรรมอย่างเอเชียนเกมส์และซีเกมส์ เราต้องเสียคะแนนในประเภทนี้แทบจะทุกครั้งไป

อย่างในการแข่งขันล่าสุดทีมชาติไทยก็ต้องเสียคะแนนในประเภทชายคู่ให้กับทีมชาติเยอรมนี, อินโดนีเซีย และล่าสุดในเกมกับญี่ปุ่น เรียกได้ว่าประเภทชายคู่เราเอาชนะได้แมตช์เดียวเท่านั้นในการพบกับทีมชาติแคนาดาจากฝีมือของ “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน กับ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ซึ่งเป็นคู่เฉพาะกิจ ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวหากทีมชาติไทยยังไม่มีมือชายคู่ที่ไปถึงระดับโลกได้โอกาสที่จะกลับมาประสบความสำเร็จในศึกการแข่งขันประเภททีมก็เป็นไปได้ยาก

# คู่ผสมฟอร์มแกว่ง ไม่คมดังเดิม

แบดมินตันในประเภทคู่ผสมถือว่าเป็นทีเด็ดของทีมชาติไทยตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คือคู่นักกีฬาที่ทำผลงานและชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในฤดูกาลนี้ทั้งสองคนยังไม่สามารถสร้างผลงานและความสำเร็จเพิ่มเติมขึ้นมาได้ และในบางครั้งทั่งคู่ก็ยังตกรอบแบบพลิกความคาดหมายอีกด้วย

และล่าสุดทั้งคู่ก็พ่ายแพ้ให้กับ เคียวเฮ ยามาชิตะ กับ นารุ ชิโนยะ คู่มือ 19 ของโลกของญี่ปุ่นไปอย่างพลิกความคาดหมายทำให้ทีมชาติไทยชวดแต้มสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่คู่ผสมมือ 2 ของทีมอย่าง “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟรม” ศุภิสรา เพียวสามพราน ยังคงต้องเก็บสะสมประสบการณ์ในระดับโลกให้แกร่งกว่านี้ เพื่อจะเป็นอีกตัวเลือกในการเปลี่ยนเกม

Badminton Association of Thailand

กิ๊ฟ-วิว กับกำแพงระดับโลกที่ยังไม่อาจก้าวข้าม

ด้านประเภทหญิงคู่นั้น “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มืออันดับ 9 ของโลก และเป็นมือวางอันดับ 1 ของประเทศไทยดีกรีเหรียญทองแดงการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์เอเชียปีล่าสุดก็ยังคงไม่อาจก้าวข้ามไปสู่เวทีการแข่งขันในระดับโลกได้ ช่องว่างระหว่างพวกเธอกับคู่แข่งที่เป็นมือวางอันดับโลกที่สูงกว่ายังคงมีระยะที่ห่างกันพอสมควร

ซึ่งหลายครั้งที่ทีมชาติไทยไม่สามารถเก็บคะแนนจากทีมระดับโลกในประเภทหญิงคู่นี้ได้ โดยปัญหาหลักก็คงมาจากการที่ กิ๊ฟ-วิว นั้นเป็นคู่ที่เล่นโดยอาศัยจังหวะฝีมือแต่ขาดความหนักหน่วงในเกมบุก ซึ่งห่างหญิงคู่มือหนึ่งของไทยสามารถปรับปรุงเพิ่มความหนักและเด็ดขาดได้เมื่อไหร่ก็มีโอกาสที่ทีมชาติไทยจะได้ประโยชน์ตรงจุดนี้ได้มากขึ้น

Badminton Association of Thailand

ตัวสำรองที่ยังไม่อาจเป็นตัวเลือกสำหรับการเปลี่ยนเกม

สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทีมชาติต่างๆ ประสบความสำเร็จในการแข่งขันสุธีรมานคัพได้นั้นก็คือการมีตัวสำรองในแต่ละประเภทที่มีฝีมือใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับจัดตัวและเปลี่ยนเกม ซึ่งทีมชาติไทยมีเพียงประเภทหญิงเดี่ยว รัชนก อินทนนท์ และ พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ กับ ประเภทหญิงคู่ที่มี “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ และ "มูนา" เบญญาภา กับ "อันนา" นันทกาญจน์ เอี่ยมสอาด เท่านั้นที่สามารถทดแทนกันได้

Scroll to Continue with Content

ขณะที่ในประเภทอื่นนั้นตัวสำรองหรือมือสองยังคงไม่อาจทดแทนหรือต่อกรกับคู่แข่งขันระดับโลกได้มากนัก หลายครั้งที่นักกีฬาที่เป็นมือหนึ่งจำเป็นต้องลงสนามทำศึกอย่างต่อเนื่องไม่อาจจะโรเตชั่นได้

ดวงไม่เป็นใจจับฉลากชนยักษ์

กฎกติกาการแข่งแบดมินตันสุธีรมาน คัพนั้น ทีมที่เป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่มจะได้เป็นทีมยืนส่วนทีมอันดับที่ 2 นั้นจะถูกจับฉลากเข้าไปประกบคู่ โดยในการแข่งขันครั้งนี้ทีมชาติไทยสามารถปราบอินโดนีเซียเข้ารอบไปเป็นทีมอันดับ 1 ของกลุ่มได้

แต่กลับโชคไม่ค่อยเข้าข้างนักเมื่อต้องจับฉลากมาพบกับทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งมีดีกรีเป็นรองแชมป์ในครั้งที่แล้ว และก็อย่างที่ทราบผลกันไปแล้วว่าทีมชาติไทยต้องพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งหลายคนก็อดคิดไม่ได้ว่าหากไปเจอกับทีมอื่นอย่างเดนมาร์หรือไต้หวัน ทีมชาติไทยอาจได้ลุ้นมากกว่านี้

วลีที่ว่า "เก่งอย่างเดียวเป็นแชมป์ไม่ได้ ต้องเก่งบวกเฮงด้วย" ก็ยังคงเป็นจริงในบางครั้งสำหรับสถานการณ์การแข่งขันกีฬา

Badminton Association of Thailand

นี่คือปัจจัยที่ทำให้แบดมินตันทีมผสมทีมชาติไทยไปไม่ถึงฝั่งฝันในศึกสุธีรมานคัพปี 2023 นี้ แต่อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณนักกีฬาลูกขนไก่ทุกท่านที่ทุ่มเทแรงใจแรงกายอย่างเต็มที่ในการแข่งขันครั้งนี้

ไม่มีอะไรต้องเสียใจครับ เราแค่กลับมาปรับปรุงแก้ไขปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วกลับไปสู้ใหม่ ไทยแลนด์ สู้ๆ ครับ

บทความโดย : The Sportory - เต้นคุง