ตอนนี้ทีมอันดับ 1 ของสายตะวันตกอย่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เหลือการเก็บชัยชนะอีกเพียงแค่สองเกมเท่านั้นพวกเขาก็จะสามารถคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกของแฟรนชายส์
หลังจากที่พวกเขาแพ้ในบ้านเป็นครั้งแรกของเพลย์ออฟปีนี้ไปอย่างน่าเสียดายในรอบชิงเกมที่ 2 ทางฝั่งของ นักเก็ตส์ ก็สามารถกลับมาขโมยเกมนอกบ้านได้สำเร็จในเกมที่สาม พร้อมกับผู้เล่นหลายคนที่ขยับขึ้นมาช่วยทีมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
ด้วยการชนะในนัดนี้ทำให้นี่เป็นเกมที่สี่ติดต่อกันแล้วที่พวกเขาชนะนอกบ้านได้ในเพลย์ออฟ โดยที่สถิตินี้ย้อนกลับไปตั้งแต่เกมปิดซีรีส์ที่เจอกับ ซันส์ ในเกมที่ 6 ของรอบรองชนะเลิศสายตะวันตก
นิโคลา โยคิช และ จามาล เมอร์รีย์ ได้เปิดโหมดโหดและสามารถควักฟอร์มอันสุดยอดออกมาได้ในเกมนี้พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ของ NBA ที่กลายเป็นเพื่อนร่วมทีมคู่แรกของ NBA ที่สามารถทำ 30 แต้ม ทริปเปิล-ดับเบิล ได้พร้อมกันในเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ
เพราะฉะนั้นหลังจบเกมนี้เราจึงมาตัดเกรดผู้เล่นกันสักหน่อยว่าใครที่สร้างผลกระทบทางบวกต่อทีมได้มากที่สุด โดยจะไล่ตั้งแต่ผู้เล่นของ นักเก็ตส์ อย่าง โยคิช และ เมอร์รีย์ ไปถึง ไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ และต่อด้วยผู้เล่นของ ฮีต อย่าง จิมมี บัตเลอร์ ไปถึง แม็กซ์ สตรูส
โดยคะแนนที่มากที่สุดคือ 10 คะแนน ส่วนคะแนนที่น้อยที่สุดคือ 1 คะแนน หากใครอยากรู้ว่าผู้เล่นแต่ละคนได้เกรดเท่าไหร่ในเกม 3 ของรอบชิงชนะเลิศ NBA สามารถติดตามได้ที่นี่
ร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันNBAได้ที่นี่
ตัดเกรดผู้เล่น นักเก็ตส์ และ ฮีต ในรอบชิง NBA เกมสาม
เดนเวอร์ นักเก็ตส์
นิโคลา โยคิช - 10
คำถามที่เกิดขึ้นในหัวทุกครั้งที่ดู โยคิช ก็คือ “มีอะไรที่เขาทำไม่ได้อีกไหม?”
การได้ 10 คะแนนเต็มของเขาในเกมนี้คงไม่มีใครตั้งคำถามถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอนเพราะเขาจัด ทริปเปิล-ดับเบิล ครั้งที่ 10 ของเพลย์ออฟปีนี้ไปได้ด้วยสถิติ 32 แต้ม, 21 รีบาวด์ กับอีก 10 แอสซิสต์ บวกกับเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ NBA ที่สามารถทำได้อย่างน้อย 30 แต้ม, 20 รีบาวด์, 10 แอสซิสต์ ในเกมรอบชิงชนะเลิศอีกต่างหาก
นอกจากเรื่องเกมรุกแล้ว ในเกมรับของเขาก็ยืนตำแหน่งได้แทบจะไม่มีข้อผิดพลาด แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีร่างกายที่ดีแต่การเข้าใจว่าตัวเองต้องยืนตรงไหนบวกกับขนาดตัวของเขาทำให้ทีมเล่นเกมรับง่ายขึ้นไม่น้อย ซึ่งตอนนี้เจ้าของ MVP สองสมัยต้องการชัยชนะอีกเพียงสองเกมเท่านั้น เขาก็จะได้รางวัลไฟนอลส์ MVP มาครอบครอง
จามาล เมอร์รีย์ - 9
อย่างที่บอกไปข้างต้นของบทความว่า เมอร์รีย์ และ โยคิช เป็นเพื่อนร่วมทีมคู่แรกของ NBA ที่สามารถทำ 30 แต้ม ทริปเปิล-ดับเบิล ได้พร้อมกันในเพลย์ออฟรอบชิงชนะเลิศ แน่นอนว่านี่มันบ้ามากๆ!
ในเกมนี้ตัวเขากดไปทั้งหมด 34 แต้ม, 10 รีบาวด์ และ 10 แอสซิสต์ หลังจากที่ระเบิดฟอร์มสุดร้อนแรงกด 20 แต้มไปได้ตั้งแต่ครั้งแรก และเมื่อไหร่ก็ตามที่แฟนๆของ ฮีต ในสนามเริ่มคึกขึ้นมา ตัวของเขาก็มีคำตอบให้กับกองแช่งเสมอ
นอกจากนั้นตัวเขาเองยังแก้การแทรปได้ดีและเล่นในเพลย์ที่ถูกต้องอยู่เรื่อยๆเพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้ 9 คะแนน
คริสเตียน บราวน์ - 8
เรารู้กันอยู่แล้วว่า โยคิช และ เมอร์รีย์ เล่นดีแค่ไหน แต่ในเกมนี้คนที่ได้แสงไปอย่างท่วมท้นก็คือ คริสเตียน บราวน์ ดราฟท์อันดับ 21 ของ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ในปีนี้
รุกกี้คนนี้ได้เข้ามาแทนที่นาทีการลงเล่นของ ไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ (ที่เล่นไม่ออก) และเขาได้สร้างผลกระทบด้วยการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกับคนที่อยู่ในลีกนี้มานาน ซึ่งในตอนนี้เราสามารถบอกได้เลยว่าเขาอาจจะได้นาทีการลงเล่นมากขึ้นอย่างแน่นอน
แอรอน กอร์ดอน - 7
แม้ว่าสถิติตัวเลขในเกมรุกของเขาจะไม่ได้ดีอะไรมากเหมือนกับเกมที่ 1 แต่จุดที่เด่นชัดมากๆของเขาในเกมนี้คือเรื่องเพลย์เมคเกอร์ที่ทำได้ดีโดยมีไปทั้งหมด 5 แอสซิสต์ ส่วนอีกประเด็นที่อยู่กับตัวเขามาตลอดก็คือเกมรับที่สามารถปิด จิมมี บัตเลอร์ ให้เล่นได้ยากทุกๆเพลย์ที่ต้องเจอกันและการเก็บรีบาวด์เกมรับจนทำให้ทีมไม่เสียการทำแต้มในจังหวะที่สอง
ไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ - 1
นี่ไม่ใช่ค่ำคืนที่ดีของ พอร์เตอร์ เลยแม้แต่น้อย เพราะว่าตัวเขาได้ลงสนามไปเพียง 21 นาทีเท่านั้น โดยที่ยิงฟิลด์โกลลงไปทั้งหมด 1 ลูกถ้วนจากโอกาสการยิง 7 ครั้ง ส่วนในเรื่องเกมรับนั้นแม้เขาจะทำได้ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะได้นาทีลงเล่นมากกว่านี้อยู่ดี
ไมอามี ฮีต
จิมมี บัตเลอร์ - 8
หลังจากที่สองเกมแรกของซีรีส์นั้น บัตเลอร์ ดูไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่นัก แต่พอกลับมาเล่นในบ้านเกมที่ 3 เขาก็กลายเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการกดดันใต้แป้น, ความดุดันในเกมรุก และพร้อมที่จะทำคะแนนตลอดทั้งเกม
โดยในเกมนี้เขาทำไปได้ทั้งหมดที่ 28 แต้มจากการยิงฟิลด์โกลลงไป 11 จาก 24 ครั้ง (45.8 เปอร์เซนต์) ซึ่งนี่เป็นการทำ 20 แต้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเจ้าตัวตั้งแต่เกมที่ 2 ของรอบชิงแชมป์สายตะวันตกเลยทีเดียว
แบม อเดบาโย - 6
แม้ว่าครึ่งแรกของ แบม จะค่อนข้างร้อนแรงด้วยการจัดไปถึง 13 แต้มกับอีก 10 รีบาวด์ แต่ทว่าในครึ่งหลังกลับเหมือนหนังคนละม้วนซึ่งฟอร์มที่ดรอปลงไปแบบนี้ก็ถือว่าเป็นความน่ากังวลใจอย่างหนึ่งของ ฮีต เหมือนกันในเกมถัดๆไป
เคเล็บ มาร์ติน - 5
หลังจากที่ต้องต่อสู้กับการเป็นไข้ตั้งแต่เกมแรกของซีรีส์ มาร์ตินถือว่าดูพร้อมมากขึ้นในเกมที่ 3 และเขาก็มีช่วงการเล่นที่น่าประทับใจไม่น้อยในครึ่งแรกที่กด 8 แต้มไปรัวๆในครึ่งแรก แต่หลังจากนั้นตัวของเขาก็ไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้มากนัก
แม็กซ์ สตรูส - 3
อย่างที่เห็นกันว่านี่ไม่ใช่เกมของสตรูซเลยจริงๆ หลังจากที่กดสามแต้มลงไปถึง 4 ลูกในเกมที่สองและมีส่วนร่วมกับทีมจะชนะไปได้ แต่ทว่าในเกมนี้เขากลับไปอยู่ในฟอร์มเดิมเหมือนเกมที่ 1 อีกครั้งเพราะเกมนี้เขาทำไปได้เพียง 1 จาก 7 ลูกเท่านั้น
เกบ วินเซนต์ - 2
เกบ วินเซนต์ ต้องเจอกับปัญหาการฟาวล์อย่างรวดเร็วในเกมที่ 3 และนั่นทำให้เขาไม่สามารถสร้างจังหวะการเล่นที่ต่อเนื่องของตัวเองได้ ก่อนที่เขาจะจบเกมนี้ไปด้วยการยิงลงไป 2 จาก 10 ลูก
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไม ไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ คือตัวแปรสำคัญ? ในรอบชิง NBA ของ นักเก็ตส์
บทความที่เกี่ยวข้อง : บัตเลอร์ และ แบม ดีแค่ไหน? กับการปิดตาย จามาล เมอร์รีย์ ในรอบชิง NBA เกมสอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : เลบรอน เจมส์ จะย้ายไป แมฟเวอร์ริกส์? มีโอกาสแค่ไหนที่เลบรอนจะไปดัลลัส