การที่ ไมอามี ฮีต ชนะ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ ไปได้ในเกมที่ 2 ด้วยสกอร์ 111-108 คะแนนนั้นประกอบไปด้วยเหตุผลมากมายหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดมากๆก็คือการใส่ เควิน เลิฟ เข้ามาเป็นตัวจริงแทนที่ เคเล็บ มาร์ติน
ถ้าย้อนความกลับไปซักนิด เควิน เลิฟ ไม่ได้ลงเล่นให้กับทีมถึง 3 เกมติดตั้งแต่รอบชิงแชมป์สายตะวันออกกับ บอสตัน เซลติกส์ จนมาถึงเกมแรกในรอบชิงชนะเลิศของ NBA กับ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แต่สุดท้ายการส่ง เลิฟ กลับมาในไลน์อัพตัวจริงอีกครั้งก็ได้สร้างผลกระทบขนาดใหญ่จน ฮีต มีความได้เปรียบในชุดตัวจริงและเอาชนะเกมที่ 2 กับ นักเก็ตส์ ไปได้ในที่สุด
ในเกมนี้เขาทำไปทั้งหมด 6 แต้ม กับอีก 10 รีบาวด์ จาก 22 นาทีที่ลงเล่น หากเราดูเผินๆตัวเลขและสถิติของเขาไม่ได้แสดงอะไรมากนัก แต่ถ้าเราได้ดูวิธีที่เขาเล่นและเรื่องการส่งผลกระทบต่อเกมเราจะรู้ได้เลยว่าเขาสำคัญแค่ไหน
ร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันNBAได้ที่นี่
เควิน เลิฟ กลับมาเป็นตัวจริงช่วยฮีตแค่ไหนในรอบชิง NBA?
หลังจากจบเกมแรก ทางด้านของ ฮีต โดน แอรอน กอร์ดอน ของ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ อัดวงในใส่ไม่ยั้งใส่ผู้เล่นที่ตัวเล็กกว่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม อีรีค สโปลส์ตรา ตัดสินใจส่ง เลิฟ ลงมาในเกมนี้
ด้วยความสูงที่ 6 ฟุต 8 ซึ่งมากกว่า เคเล็บ มาร์ติน ที่สูง 6 ฟุต 5 อยู่ถึง 3 นิ้ว บวกกับความหนาที่มากกว่าทำให้ เลิฟ ค่อนข้างทำได้ดีในการปิด แอรอน กอร์ดอน จน พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด รายนี้ทำไปได้เพียงสองแต้มเท่านั้นในควอเตอร์แรก และ คอยซ้อนใส่ นิโคลา โยคิช ตอนเข้าไปทำแต้มที่ใต้แป้นได้ดีไม่น้อย
หรือเรื่องที่น่าประทับใจมากกว่านั้นก็คือการดักลูกชาร์จของ ฟอร์เวิร์ด นักเก็ตส์ อย่าง ไมเคิล พอร์เตอร์ จูเนียร์ ได้อย่างทันท่วงที
แม้ว่าตลอด 15 ปีที่ เลิฟ ได้เล่นใน NBA การเล่นเกมรับของเขาจะไม่ใช่จุดเด่นแต่ไอคิวการเล่นบาสเกตบอลของเขานั้นช่วยทีมเอาไว้ได้เยอะมากจริงๆในเกมรับ
ส่วนในเกมรุก เลิฟ ยังคงหาโอกาสในการยิง 3 คะแนนได้ดีเพราะ 6 แต้มที่เขาได้มาก็มาจากการหาจังหวะยิงสามคะแนนทั้งนั้นและด้วยการที่ เลิฟ สามารถยิงสามคะแนนได้ยังทำให้พื้นที่ในการเล่นของตัวถือบอลอย่าง เกบ วินเซนต์ และ จิมมี บัตเลอร์ มีมากขึ้นอีกด้วย
โดยหลังจากเกม 2 สโปลส์ตรา ได้กล่าวไว้ว่า “เราต้องการไซส์และประสบการณ์ของผู้เล่นซึ่ง เลิฟ มีตรงนี้…และแน่นอนว่ามันไม่มีการวิเคราะห์ตรงไหนที่จะสามารถวัดเรื่องนี้ได้เลย”
สถิติที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่ ฮีต ส่ง แบม อเดบาโย, จิมมี บัตเลอร์, แม็กซ์ สตรูซ, เกบ วินเซนต์ และ เควิน เลิฟ ลงพร้อมกัน พวกเขาจะชนะไปถึง 11 เกมและแพ้ไปเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น
สุดท้ายเราคงต้องดูต่อไปว่า เดนเวอร์ นักเก็ตส์ จะสามารถแก้ทางของ ไมอามี ฮีต ได้หรือไม่ในเกมหน้าเพราะเขาค่อนข้างมีผลกระทบทางบวกให้กับ ไมอามี ฮีต จริงๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทีมชาติสหรัฐอเมริกาชุดลุยศึก FIBA บาสเกตบอลชิงแชมป์โลก 2023 มีใครบ้าง?
บทความที่เกี่ยวข้อง : โวเกลดีแค่ไหน? ทำไมซันส์เลือกเป็นโค้ชล่าแชมป์ NBA
บทความที่เกี่ยวข้อง : โยคิชสร้างประวัติศาสตร์! หลังทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ในรอบชิงชนะเลิศ NBA