nba

แอนดรูว์ วิกกินส์ ของ วอร์ริเออร์ส : แบบอย่างนักบาส NBA ที่คนเล่นกีฬาควรศึกษาและทำตาม

11-26-2022
2นาทีที่อ่าน
(NBAE via Getty Images)

เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่หลายคนชื่นชอบทีมโกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส อยู่ไม่น้อย พวกเขาคือมหาอำนาจแห่งวงการบาสเกตบอลเอ็นบีเอยุคปัจจุบัน ที่เปี่ยมไปด้วยการเล่นอย่างมีประสิทธิภาพ และ มีซูเปอร์สตาร์แห่งยุคอย่าง สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ เป็นจอมทัพ ซึ่งมักสร้างลูกยิงอันน่าเหลือเชื่อให้ผู้ชมได้อ้าปากค้างอยู่บ่อยๆ 

แต่ทำไม The Sporting News จึงมองว่า แอนดรูว์ วิกกินส์ จึงเป็นแบบอย่างของการเล่นบาสเกตบอลที่ดี ค้นหาคำตอบพร้อมกันได้ที่นี่

อ่านเรื่อง ทำความเข้าใจ NBA Leauge Pass ช่องทางสำหรับรับชมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ คลิก

ความเก่งไม่จำเป็นต้องโชว์หมด

หากเทียบความโดดเด่นสมัยที่เขาอยู่กับมินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์ กับ บทบาทในทีมวอร์ริเออร์ส คงต้องยอมรับว่าที่ทีม “หมาป่า” อดีตดราฟท์เบอร์ 1 เมื่อปี 2014 ดูเป็นผู้เล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่า ภาพของเขามักจะอยู่ในท็อปไฮไลท์ของวิดีโอคอนเทนต์ที่ลงตามสื่อโซเชียลมีเดียมากมาย แต่กับทีมแชมป์ปีล่าสุด เขาไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้น

นับตั้งแต่ตกกระไดพลอยโจร ย้ายมาร่วมทีมวอร์ริเออร์ส เมื่อปี 2019-2020 ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า วิกกินส์ จะสามารถรีดฟอร์มในรูปแบบเติมเต็มทีมได้ บางคนกังวลด้วยซ้ำว่าเขาจะมาแย่งบทบาทของสตาร์ในทีมทั้ง เคอร์รี่ หรือ เคลย์ ธอมป์สัน หรือเปล่า แต่ท้ายที่สุด วิกกินส์ โชว์ให้เราเห็นบางอย่างที่มีคุณค่ามากกว่า คำว่า “เก่ง”

เขาเติบโตมากพอที่จะเรียนรู้ว่าทีมต้องการอะไร พร้อมกับปรับตัวเข้าสู่ระบบของ สตีฟ เคอร์ ได้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดเกมบุกของเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม แต่เขากลับเพิ่มเติมคุณภาพในเกมป้องกัน และบทบาทผึ้งงาน รวมถึงพัฒนาระยะ 3 คะแนน เพื่อให้ตนเองสามารถทำคะแนนได้โดยที่ไม่ต้องถือบอลเล่นเองเยอะ ซึ่งถ้าทำแบบนั้นก็จะเป็นการเล่นที่ขัดต่อระบบของ เคอร์ อย่างมาก

ท้ายที่สุด วิกกินส์ กลายเป็นจิ๊กซอว์ ชิ้นสำคัญที่ทีมวอร์ริเออร์สขาดไม่ได้ เขาไม่ได้ทำแต้มเป็นกอบเปนกำเหมือนกับ เควิน ดูแรนท์ แต่เพราะการเรียนรู้และการเติบโตทางความคิด ทำให้เขากลายเป็นบุคคลากรคนสำคัญด้วยความฉลาดในการหยิบใช้ความเก่งของตัวเอง ให้ตรงตามกับสิ่งที่ทีมต้องการ

สรุปง่าย ๆ ไม่ใช่ว่า วิกกินส์ ไม่เก่ง เขายังฝีมือและพรสวรรค์มากมาย แต่เขาไม่ได้อยากโชว์ทุกสิ่งที่เขามี แต่เขาเลือกทำในสิ่งที่ทีมต้องการ

NBA Getty Images

 

ทำในสิ่งที่ควรไม่ใช่ทำแต่สิ่งที่อยากทำ

ฟอร์เวิร์ดชาวแคนาดาครองบทบาทจอมทัพของ ทิมเบอร์วูล์ฟส์ อยู่นานหลายปี แต่เขากลับไม่เคยติดออลสตาร์เลยสักหน สาเหตุหนึ่งเพราะอดีตต้นสังกัดของเขาไม่เคยมีผลงานที่โดดเด่น แต่เราเชื่อว่ามีอีกเหตุผลที่ซ่อนอยู่

วิธีการเล่นของเขาคือนักบาสพลังหนุ่มทั่ว ๆ ไป โดดเด่นแต่หลายครั้งไม่ได้ส่งผลบวกที่แท้จริงต่อทีม และการมีเพลย์สวย ๆ หลายครั้งมักจะแลกมาซึ่งความผิดพลาด ที่ไม่ค่อยถูกบันทึกลงไฮไลท์ประจำสัปดาห์

สมัยอยู่ ทีวูล์ฟ เขาลงเล่นเฉลี่ยแล้ว 35 นาทีต่อเกม บางซีซั่นพุ่งไป 37 นาทีด้วยซ้ำ น่าแปลกหรือไม่ที่โอกาสในการอยู่ในสนามก็เยอะ เป็นตัวเอซของทีม ทำแต้มก็มากมาย แต่กลายเป็นว่าเขามาติดออลสตาร์ครั้งแรกกับทีม วอร์ริเออร์ส เมื่อฤดูกาล 2021-2022

Scroll to Continue with Content

ซึ่งเป็นซีซั่นที่ วิกกินส์ ทำแต้มเฉลี่ยน้อยสุดในอาชีพนับตั้งแต่ปีรุกกี้ และมีเวลาลงเล่นในสนามเฉลี่ยน้อยที่สุดนับตั้งแต่เข้าลีกมา 8 ปี

คำตอบเพราะประสิทธิผลที่เกิดขึ้น ทั้งเกมป้องกันที่ยอดเยี่ยม การก้าวขึ้นมาทำสิ่งที่ควรทำในช่วงเวลาสำคัญ และงานจิปาถะซึ่งไม่ถูกบันทึกไว้ในสถิติหลังเกมการแข่งขัน แต่ถูกบันทึกไว้ในความรู้สึกของคนดูเกมบาสเกตบอลแบบจริงจัง, สายตาโค้ชและเพื่อนร่วมอาชีพ รวมถึงกลุ่มนักวิเคราะห์เกม ซึ่งมีโอกาสดูการแข่งขันครบทั้ง 48 นาที

ค่าเฉลี่ยการทำแต้ม และ จำนวนไฮไลท์ อาจทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้น แต่กับบทบาทที่เขาทำกับวอร์ริเออร์ส ต่างหาก ที่ช่วยให้เขาได้รับการยอมรับจากคนจำนวนมาก

สำหรับคนเล่นบาสเกตบอล เราเชื่อว่าคุณคงเจอเหตุการณ์ที่นักบาสรุ่นใหม่หลายคน ซ้อมชู้ตระยะเคอร์รี่ มากกว่าเอาเวลามาซ้อมลูกเล่นที่ใช้ได้จริงเมื่อลงสนาม ถูกมั้ย ?

อีโก้สิ่งเดียวที่ควรลดลง

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะอีโกที่ลดลงตามอายุ แต่สำหรับคนบางประเภทสิ่งนี้ก็อาจไม่ลดลงไปตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม วิกกินส์ พิสูจน์ให้เราเห็นว่าเขาไม่ยึดติดเลยกับอดีตเด็ก 5 ดาว ที่พกดีกรีดราฟท์อันดับ 1 เข้าลีก เขาไม่ต้องรอวันที่โรยราเพื่อปรับตัวสู่บทบาทพระรองในทีม เขาพร้อมทำตั้งแต่ยังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ เพื่อสร้างเกมบาสเกตบอลที่ดีที่สุดต่อทีม และ ตัวเขาเอง

“ผมจะเป็นตำนานที่นี่” สิ่งที่เขาเคยกล่าวเอาไว้กับ The Athletic แต่ที่น่าแปลกใจคือ ความทะเยอทะยานของเขากลับเปลี่ยนจากบุคคลที่ต้องโดดเด่นไปเสียทุกอย่าง กลายเป็นเป้าหมายของการติดทีมเกมรับยอมเยี่ยมแห่งปี ขอติดออลสตาร์อีกครั้ง และ อยากได้แหวนแชมป์เพิ่มพร้อมกับเพื่อนร่วมทีม

วิกกินส์ เติบโตทางความคิดอย่างเหลือเชื่อ เขามองผู้เล่นอย่าง อังเดร อิกัวดาล่า, เดรย์มอนด์ กรีน, สเตฟเฟน เคอร์รี่ และ เคลย์ ธอมป์สัน เป็นแบบอย่างที่ดี และอยากเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ร่วมกับผู้เล่นเหล่านี้ คำตอบนี้ดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่มันสะท้อนว่าเขาอยากเดินรอยตามคนรอบข้างที่ประสบความสำเร็จ มากกว่าเหลิงมากพอที่จะอยากออกไปพิสูจน์ตัวเองว่าแน่แค่ไหน

แต่ถ้าหากถึงจุดที่เขาต้องการความท้าทายใหม่ ๆ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกของนักกีฬา แต่ ณ เวลานี้ เราเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริง เพราะเขาได้แสดงออกทั้งหมดผ่านสิ่งที่เขาทำในสนามบาสเกตบอล

ในสังคมของคนเล่นบาสเกตบอลเกมป้องกันและการทำหน้าที่ปิดทองพลังพระไม่ใช่เรื่องทีได้รับการพูดถึงและมีคำชื่นชมมากนัก แต่สำหรับวิกกินส์ ซึ่งเล่นในระดับเอ็นบีเอ แถมยังมีศักยภาพเป็นตัวทำคะแนนระดับแนวหน้ากลับเห็นต่าง

“ผมชอบเล่นเกมรับ มันเป็นส่วนพิเศษของผม และผมก็สนุกกับมัน ไม่มีอะไรดีไปกว่่าการหยุดคู่ต่อสู้ได้ ผมจะมีความสุขมากเมื่อป้องกันคู่แข่งได้ เมื่อคุณเล่นเกมรับได้ดี จะทำให้เกมส่วนอื่น ๆ ของคุณง่ายขึ้น” วิกกิ้นส์ ซึ่งนับวันยิ่งส่องสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ แบ่งปันมุมมองคุณค่าของเกมป้องกันในสายตาของเขา

จากประสบการณ์ในสนามบาสของผู้เขียนราว ๆ 20 ปี น้อยมากที่เราจะเห็นผู้เล่นซึ่งเก่งเกมบุกแล้วให้ความสำคัญกับเกมป้องกันด้วย หรือ พร้อมที่จะแบ่งพลังในการทุ่มเทเกมบุกมาให้เกมรับในเวลาที่มีเพื่อนร่วมทีมซึ่งสามารถทำคะแนนได้เก่งกว่า 

เชื่อเหลือเกินว่า หลาย ๆ ครั้ง "อีโก้" บังตาคนเราจนอยากโชว์ทักษะเกมบุกที่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อชนะเกมเท่าไหร่นัก แต่ดันใช้อย่างไม่ลืมหูลืมคาจนกลายเป็นความดันทุรังที่ทำลายทีมของตัวเองได้เช่นกัน

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย