แบรนด้อน เจนนิ่งส์ : รุกกี้ที่ทำ 55 แต้มให้บัคส์ กับชีวิตแสนหวือหวาจากเกือบดังสู่การแทบจะถูกลืม

11-15-2022
4นาทีที่อ่าน

หลายคนอาจจะลืมชื่อของเขาไปแล้ว แต่ถ้าใครพอจะจำกันได้ แบรนด้อน เจนนิ่ง คืออดีตผู้เล่นเอ็นบีเอ ที่มีจุดเด่นคือความเร็ว ไม่ใช่แค่สไตล์การเล่นของเขาเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นการตัดสินใจอื่น ๆ ทั้งการกระโดดจากระดับมัธยมปลาย ไปเล่นลีกอาชีพที่ต่างประเทศ รวมทั้งความไวที่นำมาสู่ภาพจำของเด็กรุกกี้ที่ห้าวเป้ง แต่ระเบิดฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้ตั้งแต่เกมที่ 7 ในลีกเอ็นบีเอ อีกด้วย

อย่างไรก็ตามความหวือหวาที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจกลายเป็นคุณภาพที่ไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเท่าไหร่นัก เรื่องราวของการ์ดจรวดรายนี้เป็นอย่างไร ติดตามได้ที่นี่

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย

นักบาส ม.ปลาย คนแรก ที่กระโดดไปยุโรป

สมัยมัธยมปลาย เจนนิ่ง มีฝีมือเก่งมากเขาลงเล่นให้กับ โดมิเกซ ในแคลิฟอร์เนีย ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม โอ๊คฮิลล์ อคาเดมี่ ในเวอร์จิเนีย ซึ่งปีสุดท้ายการ์ดรายนี้ระเบิดฟอร์มทำเฉลี่ย 35.5 คะแนน และแต้มรวม 1,312 แต้ม กลายเป็นสถิติของโรงเรียนเลยทีเดียว ซึ่งนำไปสู่การคว้ารางวัล 2008 Naismith Prep Player of the Year Award, 2007–08 Gatorade Player of the Year (Virginia), 2008 Parade Magazine Player of the Year และ  2008 EA Sports Player of the Year.

พูดง่าย ๆ ว่า เขากลายเป็นนักบาสมัธยมปลายชั้นแนวหน้าของประเทศ การันตีจากการถูกจัดอันดับให้เป็นผู้เล่นอันดับ 1 ในระดับ ม.ปลาย ของคลาสปี 2008 จาก  Scout.comESPNU  และ อันดับ 4 ของ  Rivals.com.

ชีวิตช่วงนั้นเขาเนื้อหอมมาก หลายมหาวิทยาลัยขั้นนำเรื่องบาสเกตบอลของสหรัฐฯ ต่างก็เชื้อเชิญให้เขาเข้าร่วมทีม ในยุคนั้นเขาถูกวางให้เป็นยอดการ์ดชั้นแนวหน้า ซึ่งมีรายชื่ออื่น ๆ อย่าง จรู ฮอลิเดย์, ไทรีค อีแว่นส์ และ แลนซ์ สเตเฟนสัน แต่ เจนนิ่ง คือชื่อที่โดดเด่นที่สุด และทั้งหมดต่างได้ปกนิตยสาร SLAM ด้วยกัน

อย่างไรก็ตามเดือนมิถุนายน ปี 2008 … เจนนิ่งส์ ประกาศการตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่กลายเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการบาสเกตบอลสหรัฐฯ ก็ว่าได้ เขาเลือกย้ายไปเล่นลีกอาชีพที่ยุโรป ด้วยกฏของลีก NBA ณ เวลานั้นที่ไม่อนุญาตให้ผู้เล่นซึ่งอายุไม่ถึง 19 ปี (มีประสบการณ์ในระดับมหาวิทยาลัย 1 ปี) เข้าร่วมการดราฟท์ และ การ์ดรายนี้เชื่อว่า การเอาเวลาช่วงนี้ไปลงเล่นที่ยุโรปกับระดับมืออาชีพ จะช่วยให้เขาพร้อมสู่การเข้าลีกที่แกร่งสุดในโลก เมื่อเวลาที่เหมาะสมมาถึง

1 ปี สุดแป้ก ที่กรุงโรม 

เจนนิ่งส์ ตัดสินใจเซ็นสัญญากับ ล็อตโตมาติก้า โรม่า ทีมในศึกบาสเกตบอลเอตาเลียน เซเรียอา (ลีกสูงสุดของอิตาลี) ด้วยเงื่อนไข 1 ปี 1.65 ล้านเหรียญ (ประมาณ 58 ล้านเหรียญ) และไม่นาน อันเดอร์ อาร์เมอร์ แบรนด์กีฬาชั้นนำ ก็จับเขาเซ็นสัญญามูลค่า 2 ล้านเหรียญ (ราว ๆ 71 ล้านบาท) 

ผลงาน 1 ฤดูกาลของ เจนนิงส์ กับทีมโรม่า ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เขาลงเล่นในลีก 27 เกม ทำเฉลี่ยแค่ 5.5 แต้ม, 1.6 รีบาวด์ และ 2.2 แอสซิสต์ พร้อมกับขโมยบอล 1.5 หน จากโอกาสการลงเล่น 17 นาที ต่อเกม 

รวมทั้งยังได้ลงเล่นทัวร์นาเม้นต์ ยูโรลีก 16 เกม ทำเฉลี่ย 7.6 แต้ม กับ 1.6 รีบาวด์ 1.6 แอสซิสต์ และ 1.2 สตีล ปัญหาที่เห็นได้ชัดคือความสามารถในการชู้ต ยิ่งกับบาสยุโรปที่เน้นการป้องกันแบบโซนแล้ว ถ้าชู้ตไม่ได้ โอกาสที่จะได้ใช่ความเร็วให้เป็นประโยชน์ก็แทบจะไม่มีเลย

เจนนิ่งส์ ชู้ต ฟิลด์โกลไม่ถึง 40% และ ระดับ 3 คะแนน ไม่ถึง 30% การตัดสินใจครั้งนั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าส่งผลต่ออันดับดราฟท์และคุณค่าที่ลดลงจากบรรดาแมวมองใน NBA หรือไม่ เพราะถ้าหากเขาเลือกเล่นในระดับ NCAA โอกาสลงสนามและความคุ้นเคยกับวิธีการเล่นน่าจะช่วยให้เขามีผลงานที่ดีกว่านี้

รุกกี้ที่ใช้ 7 เกม สั่นสะเทือนทั่วลีก NBA

1 ปี ที่อิตาลีอาจไม่เป็นไปตามดั่งใจคิด แต่ท้ายที่สุด เจนนิ่งส์ ก็อายุครบ 19 ปี และเขาสามารถเข้าร่วมการดราฟท์ของ NBA ได้ และ มิลวอกี้ บัคส์ ได้ใช้สิทธิ์อันดับ 10 ของพวกเขาเลือก เจนนิ่งส์ มาช่วยอัพเกรดคุณภาพตำแหน่งการ์ดของทีม หลังจากที่พวกวืดเพลย์ออฟมา 3 ปีติดต่อกัน 

Scroll to Continue with Content

เจนนิ่งส์ เข้ามาเติมเต็ม บัคส์ ที่กำลังสร้างทีมขึ้นมาใหม่ และผู้เล่นฝีมือดี พร้อมกับฟอร์มที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นคนที่เร็ว ดังนั้นการสร้างชื่อสำหรับเขาต้องไม่ใช้เวลานาน

เพียงเกมที่ 7 ของฤดูกาล ที่ทีมลงสนามพบกับ โกลเด้นสเตท วอร์ริเออร์ส การ์ดรุกกี้ดราฟท์อันดับ 10 ที่พกประสบการณ์ยุโรป 1 ปี ก็โชว์ของเด็ด เหมาคนเดียว 55 แต้ม ซึ่งสถิตินี้ ทำให้ชื่อของเขาดังกระหึ่ม เพราะมันคือสุดยอดตัวเลขที่ผู้เล่นระดับรุกกี้ไม่สามารถจะทำได้ง่ายเลย

เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด ที่สามารถทำระดับ 55 แต้มในเกมเดียวได้ เป็นผู้เล่นอันดับ 2 ของลีก ที่อายุน้อยกว่า 21 ปี และทำสกอร์สูงสุดในหนึ่งเกม กลายเป็นผู้เล่นอันดับ 2 ของบัคส์ ที่ทำแต้มมากมายขนาดนี้ (รองจาก ไมเคิล เร้ดด์ ในปี 2006 ที่ทำ 57 คะแนน) โดยเขายังรั้งอยู่ในอันดับ 5 ตลอดกาลของผู้เล่นรุกกี้ ทำคะแนนมากที่สุดอีกด้วย

เจนนิงส์ ลงสนามครบทั้ง 82 เกม ช่วยให้บัคส์ ่ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟได้สำเร็จ (แม้จะตกรอบแรกก็ตาม) เขาคว้ารางวัลรุกกี้ยอดเยี่ยมแห่งปี และกลายเป็นผู้เล่นตัวความหวังของแแฟนบัคส์ อย่างไรก็ตามเพราะฟอร์มที่ไม่ค่อยคงเส้นคงวาทั้งทีมและตัวผู้เล่นแกนหลัก ทำให้ทีมเขากวางพลาดการลงเล่นเพลย์ออฟใน 2 ปีต่อมา 

และเมื่อได้กลับเข้าไปลุ้นในรอบตัดเชือกอีกครั้ง พวกเขาก็ทำได้แค่ตกรอบแรกแบบถูกกวาดซีรี่ส์โดย ไมอามี่ ฮีต ในปี 2013

เจนนิ่งส์ ดูไม่ใช่การ์ดที่ทีมพร้อมจะฝากอนาคตไว้ เช่นเดียวกับเจ้าตัวที่ต้องการสัญญาก้่อนโตระยะยาวจากทีม ท้ายที่สุดเขาถูกส่งไปอยู่กับ ดีทรอยท์ พิสตันส์ ส่วน บัคส์ ได้ผู้เล่นที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของทีมมาจนถึงปัจจุบันอย่าง คริส มิดเดิลตัน มาเป็น 1 ในข้อแลกเปลี่ยน

เร็วเกินไปไม่ได้แปลว่าดี

จะเห็นว่าการตัดนสินใจแต่ละช่วงของ เจนนิงส์ นั้นรวดเร็วพอ ๆ กับสไตล์การเล่นของเขา และ มันอาจจะส่งผลไม่ดีนักเพราะความใจร้อนอาจทำให้เขาลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดี เพราะชีวิตหลังออกจาก บัคส์ ก็เหมือนเป็นขาลงของการ์ดรายนี้

แม้เขาจะได้เป็นตัวหลักของ พิสตันส์ ในปีแรก แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บและข้อจำกัดทางความสามารถในการเล่น โดยเฉพาะความแม่นยำซึ่งเป็นคุณสมบัติที่การ์ดยุคใหม่ควรมีทำให้เขาลืมถูกกลืนหายไป จนกลายเป็นผู้เล่นระดับธรรมดา 

การกลับมาร่วมงานกับ บัคส์ ในช่วงปี 2017-2018 หลังจากไปลเน่ในจีนอยู่พักหนึ่ง ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เขาไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากนักจากการเซ็นสัญญาดันขึ้นมาจากชุดจีลีก ก่อนที่เขาจะย้ายไปร่วมทีม เซนิต เซนต์ส ปีเตอร์เบิร์กในรัสเซีย ซึ่ง ณ เวลานั้น เจนนิงส์ เพิ่งจะมีอายุเพียง 29 ปี ถือว่าช่วงเวลาแห่งการเกิดแก่เจ็บตาย ในลีก NBA ของเขานั้นค่อนข้างมาไวไปไวทีเดียว

และใช่ว่าเขาจะอยู่กับ เซนิต ได้นานนัก เขาลงเล่นแค่ 10 เกม ก็ถูกปล่อยตัวออกจากทีม โดยคาดว่าเขาน่าจะมีพฤติกรรมส่วนตัวที่มีปัญหา กระทั่งได้โพสต์ลงไอจีตามหลังว่า “บทเรียนของชีวิต ผมจะไม่เล่นให้กับทีมที่พ่อโค้ชลูกตัวเองเด็ดขาด จะไม่มีอีกแน่นอน” โดย เซนิต ในตอนนั้นมีโค้ชคือ วาซิลี คาราเซฟ ซึ่งมีลูกชายของเขาอย่าง เซย์กี้ คาราเซฟ อดีตผู้เล่น NBA ลงเล่นอยู่ในทีม

วลีเด็ด ที่กลายเป็นคำฉลองแชมป์ของ บัคส์

แต่ เจนนิงส์ ยังมีเรื่องที่น่าจดจำกับลีกและทีมบัคส์อยู่อีกอย่าง คือ วลีที่เขาได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2013 ว่า บัคส์ จะชนะฮีต ใน 6 เกม ได้กลายเป็นคำนิยามของการฉลองแชมป์สำหรับทีมเมื่อปี 2021

ฤดูกาลนั้น บัคส์ ชนะ ฟีนิกซ์ ซันส์ 4-2 เกมในรอบชิงชนะเลิศ ภาพของ เจนนิ่งส์ ที่เคยสัมภาษณ์ถูกนพกลับมาเผยแพร่ในโลกโซเชียล และ บัคส์ ไม่รอช้า ที่จะเชิญเจ้าตัวมาร่วมชบวนพาเหรดฉลองแชมป์ รวมถึงสลักวลีดังกล่าวไว้บนแหวนแชมป์ของที