การที่ไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย นับตั้งแต่ “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” วางมือไป ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พวกเขาคือทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก คว้าแชมป์มากที่สุด และเคยคว้าแชมป์เป็นเรื่องปกติ หากไม่ได้แชมป์สักปี พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง
แต่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ แมนฯ ยูไนเต็ด ห่างหายจากการลุ้นแชมป์เกือบ 10 ฤดูกาล
จนกระทั่งในฤดูกาล 2022-23 พวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง ฟอร์มการเล่นที่ดี มาพร้อมกับทีมที่สุดยอด พวกเขากลายเป็นทีมที่น่ากลัวสุดๆ
แต่ก็ยังมีคำถามอยู่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ดีพอที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วหรือยัง?
การเล่นอย่างเป็นระบบ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยนักเตะมากมายที่กำลังเล่นอย่างมั่นใจ นั่นถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับพวกเขา
เหตุผลง่ายๆคือก่อนหน้านี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เน้นความสามารถส่วนบุคคล อย่างที่เราได้เห็นบทวิเคราะห์มากมาย
แต่ในตอนนี้พวกเขาในยุคของ เอริค เทน ฮาก มันเปลี่ยนไปแล้ว นี่คือทีมที่เล่นกันอย่างเป็นทีมอย่างมีระบบ
รูปแบบการเล่นของพวกเขามันสุดยอดขนาดที่สามารถเปลี่ยนนักเตะตัวสำรองลงมาเล่นได้หลายๆคนในคราวเดียว แต่แทบไม่กระทบกับผลงานในสนาม เนื่องจากว่าพวกเขาเข้าใจในระบบการเล่น และรูปแบบการเล่นแบบเดียวกัน
ปีศาจแดงในยุค เทน ฮาก ได้สร้างแมนฯ ยูไนเต็ด ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อาจมีนักเตะตัวสำรองที่คุณภาพไม่สูงนักก็จริง แต่บางครั้งก็สามารถลงไปเล่นได้ เพราะนักเตะเหล่านั้นเข้าใจในสิ่งที่เทน ฮากต้องการเป็นอย่างดี
ในวันนี้พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องพึ่ง บรูโน แฟร์นันด์ส เพียงคนเดียวอีกต่อไปในการทำเกมรุก หรือไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งฝีมือของ ดาบิด เด เคอา ในการช่วยเซฟประตูเช่นเดียวกันในเกมรับ
เพราะพวกเขาทุกคนช่วยกันเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือพาทีมนี้ไปสู่ชัยชนะ นั่นคือสิ่งสำคัญที่ทีมระดับท็อปควรมี และมันยกระดับให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้กลับมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างจริงจังแน่นอนในฤดูกาลนี้
พัฒนาเกมรับ
ไม่แปลกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจมบ๊วยในช่วงต้นฤดูกาลเพราะพวกเขามีเกมรับที่แย่สุดๆ พวกเขาโดยแนวรุกคู่แข่งยำจนเป็นเรื่องปกติ
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้หยุดแค่นั้น พวกเขายังพัฒนาอยู่เรื่อยๆ จนแข็งแกร่งมากพอที่จะสร้างทีมที่ดีพอในการลุ้นแชมป์กับทีมคู่แข่ง
การที่พวกเขามี ราฟาเอล วาราน กลับมาอยู่ในสถานะฟิตเต็มร้อย และมีฟอร์มการเล่นที่ดีถือเป็นเรื่องได้เปรียบอย่างแรก เพราะพวกเขามีนักเตะที่ดีอยู่ในทีมแล้ว แต่มากไปกว่านั้นคือการสร้างจนผู้เล่นทุกคนสามารถเล่นได้ และรู้ว่าจังหวะต่อไปจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ทีมที่มีวิธีการเล่นเกมรับที่ดี จะสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายขึ้น เราได้เห็น ลุค ชอว์ เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คแล้วไม่รู้สึกแปลกอะไร มากไปกว่านั้นเขายังเล่นได้ยอดเยี่ยมด้วย มันมาจากระบบที่ถูกวางมาเป็นอย่างดี
พัฒนาการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นไปอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ยังมีผู้ช่วยที่ทำให้เกมรับของพวกเขาสุดยอด ก็คือ คาเซมิโร่ กองกลางที่ย้ายเข้ามาจากเรอัล มาดริด
เขาช่วยให้แนวรับของปีศาจแดงทำงานน้อยลงเยอะมากๆ และนั่นถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ไม่แปลกเลยหากบอกว่าในตอนนี้พวกเขาก็มีลุ้นแชมป์เหมือนกัน เพราะฝั่งเกมรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่ายอดเยี่ยมสุด ๆ แล้ว
ความเชื่อมั่นที่กลับมา
มากกว่าความสามารถของผู้เล่น รวมถึงผู้จัดการทีมคือความเชื่อมั่น นั่นคือสิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีในตอนนี้
หลังจากความพ่ายแพ้มากมาย และความล้มเหลวกับการที่ไม่ได้แชมป์มาหลายปี การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก จนถึงตอนนี้ บอกได้ว่าน่าประทับใจสุดๆ
เพราะการเล่นของลูกทีมปีศาจแดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยใจนักสู้ พวกเขาทำให้แฟนบอลในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด กลับมาภาคภูมิใจในทีมรักของตัวเองอีกครั้งจนสามารถส่งเสียงเชียร์ได้ตลอดทั้ง 90 นาที
ตัวอย่างเราเห็นกันมาตลอดในช่วงหลัง โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม มันยิ่งเป็นแรงใจส่งต่อเนื่องมาให้กับทีมโดยตรง ในตอนนี้ปีศาจแดงนั้นยอดเยี่ยมแล้ว แต่การมีความเชื่อว่า พวกเขาดีพอจะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเหมือนกัน ทำให้พวกเขาน่ากลัวขึ้นกว่าเก่ามากเลยทีเดียว
คำถามที่ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้หรือไม่? ถ้ามองถึงความพร้อมในตอนนี้ เราคงตอบได้ว่าใช่ แมนฯ ยูไนเต็ด พัฒนาอย่างรวดเร็วจนมาอยู่ในจุดที่พร้อมแล้ว
แต่คนที่จะต้องตอบคำถามนี้จริง ๆ คงเป็น เอริค เทน ฮาก และลูกทีมปีศาจแดงของเขา … ในตอนนี้พวกเขาทำงานหนักกว่าที่เคย พร้อมด้วยความเชื่อว่าในฤดูกาลนี้จะเป็นโอกาสของพวกเขาบ้าง
ไม่แปลกหากจะมีคนบอกว่าพวกเขามีโอกาสลุ้นแชมป์มากที่สุดในรอบหลายปี เพราะในตอนนี้การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกสำหรับพวกเขา ไม่ได้ห่างไกลเกินจากความเป็นจริงเลยแม้แต่นิดเดียว