เรอัล มาดริด เข้าใกล้ความจริงที่จะคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ไปอีกขั้น หลังพวกเขาเอาชนะบาเยิร์น มิวนิค ในรอบรองชนะเลิศ จนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฤดูกาล 2023-24
หากทัพราชันชุดขาวก้าวสู่เส้นชัยได้อีกครั้ง นั่นจะเป็นครั้งที่ 15 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จนผู้คนพูดกันมากมายว่า ถึงอย่างไร เรอัล มาดริด คือทีมที่แข็งแกร่งเสมอบนเวทีแชมเปียนส์ลีก
แต่นั่นคือความจริงหรือไม่ ติดตามไปพร้อมกับ The Sporting News
ความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความแข็งแกร่งของเรอัล มาดริด บนเวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เริ่มต้นความสำเร็จในครั้งอดีตที่พวกเขาครองตำแหน่งราชันแห่งยุโรปตั้งแต่ยุค 50s ในฐานะแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 5 สมัยซ้อน ก่อนจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ในยุคของซีเนอดีน ซีดาน ที่คว้าแชมป์ติดต่อกัน 3 สมัยซ้อน
ความมั่นใจว่าพวกเขาจะคว้าชัยชนะบนเวทีแชมเปียนส์ลีกได้เสมอ กลายเป็นแนวคิดที่ถูกฝังเอาไว้ในวัฒนธรรมของสโมสร หรืออย่างน้อยที่สุดก็ถูกฝังไว้ในหัวของเหล่านักเตะที่เคยประสบความสำเร็จระดับสูงกับทีมมาแล้ว
นักเตะอย่าง คาริม เบนเซม่า หรือคาเซมิโร่ ไม่เคยแสดงความรู้สึกกังวล เมื่อพวกเขาต้องผ่าด่านหินในฤดูกาล 2021-22 ย้อนกลับไปในรอบรองชนะชนะเลิศของซีซั่นดังกล่าว เรอัล มาดริด ตกเป็นฝ่ายตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสกอร์รวม 3-5 ขณะเหลือเวลาการแข่งขันไม่ถึง 20 นาที
แต่ความเครียดไม่เคยปรากฎบนใบหน้าของแข้งรุ่นเก๋าทัพราชันชุดขาว ทั้ง เบนเซม่า และ คาเซมิโร่ ยังคงยิ้มแย้มก่อนจบครึ่งแรก แม้พวกเขาจะเป็นฝ่ายตามหลัง ซึ่งท้ายที่สุด เป็นเบนเซม่าที่ยิงจุดโทษปิดกล่องให้มาดริดพลิกชนะ 6-5 ในสกอร์รวม
นักเตะของเรอัล มาดริด หลายคนยังเคยแสดงความสบายใจ แม้สถานการณ์ในเวทีแชมเปียนส์ลีกไม่สู้ดี เช่น โทนี่ โครส ที่เคยนั่งเป่าผมอย่างสบายในช่วงพักครึ่ง ขณะเสมอกับลิเวอร์พูล 1-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนทัพราชันชุดขาวจะคว้าชัยตามคาด 3-1 โดยการคว้าแชมป์ครั้งนี้ถือเป็นการคว้าแชมป์ยุโรปครั้งที่สามของแข้งชาวเยอรมัน
นี่ถือเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นได้อย่างดีว่า จิตใจของนักเตะมาดริดมั่นคงขนาดไหน เมื่อลงเล่นในบอลยุโรป
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไขข้อสงสัย? ทำไม แฮร์รี่ เคน ถูกเปลี่ยนตัวออกจนบาเยิร์นตกรอบ UCL
ฝีเท้าไม่เคยเป็นรอง
เมื่อกลับมามองปัจจัยเรื่องฝีเท้านักเตะ มีหลายครั้งที่พวกเขาผงาดขึ้นเป็นราชันยุโรป แม้ขณะนั้นเรอัล มาดริด จะไม่ใช่ทีมหมายเลขหนึ่งของยุโรป เรื่องทำนองนี้อาจสร้างความประหลาดใจให้กับหลายคน เมื่อทัพราชันชุดขาวคว้าแชมป์หลายสมัยติดต่อกันได้อยู่เพียงทีมเดียว นับตั้งแต่รายการนี้เปลี่ยนชื่อเป็นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
แต่ความจริงที่บางคนอาจหลงลืมไปคือ ถึงบางครั้ง เรอัล มาดริด จะไม่ได้เป็นทีมหมายเลขหนึ่งของโลก “พวกเขาเป็นยอดทีมของยุโรปเสมอ”
และหลายครั้งที่พวกเขาหากไม่ใช่หมายเลขหนึ่ง ทัพราชันชุดขาวคือหมายเลขสองของวงการฟุตบอลอยู่หลายครั้ง และมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าทีมอันดับสองจะทำผลงานดีในบอลถ้วย เมื่อทีมที่ดีที่สุดกำลังครองความยิ่งใหญ่ในบอลลีก
นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ระหว่าง บาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด เพราะขณะที่ทีมดังแห่งคัมป์ นู คว้าแชมป์ลีกได้ 5 สมัย ในทศวรรษ 2010s ทัพราชันชุดขาวกลับเป็นฝ่ายคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ 5 สมัย เช่นกัน นี่คือการขับเคี่ยวแย่งชิงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของสองทีมที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น
ความสำเร็จของเรอัล มาดริด คงไม่เป็นประเด็นขนาดนี้ หากพวกเขาหลบฉากไปคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศเป็นผลงานหลัก
แต่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าสองยอดทีมแห่งสเปนคือสุดยอดของวงการฟุตบอลในช่วงปี 2010s อย่างแท้จริง และมาตรฐานที่แสดงให้เห็นว่า เรอัล มาดริด คือหนึ่งในสองสุดยอดทีมที่ดีที่สุดของยุโรป ถูกแสดงให้เห็นออกมาผ่านการคว้าแชมป์ยุโรปอย่างต่อเนื่อง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทีเด็ดช่างปั้นหม้อ : เมื่อวิธีการทำประตูของ โฆเซลู มีต้นแบบมาจากสโต๊ค ซิตี้
แทคติกเหมาะกับฟุตบอลยุโรป
เหตุผลสำคัญสุดท้ายที่ทำให้เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จในเวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มากกว่าทีมไหน คือแทคติกของพวกเขาที่เน้นฟุตบอลโจมตีรวดเร็วและเฉียบขาด คืออาวุธสำคัญที่เหมาะสมกับการเล่นบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกพอดี แทนที่จะเป็นฟุตบอลลีกปกติแบบลา ลีก้า
ตั้งแต่ยุคของซีเนอดีน ซีดาน จนถึง คาร์โล อันเชล็อตติ ทัพราชันชุดขาวไม่เคยเป็นทีมที่ทำผลงานได้ดี หากเป็นฝ่ายถูกบีบให้ครองบอลมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เพราะวิธีการโจมตีที่พวกเขาถนัดจะถูกลดประสิทธิภาพลงไป นี่คือสถานการณ์ที่เรอัล มาดริด เจออยู่เสมอเมื่อลงเล่นในลีก เพราะทีมที่อ่อนกว่าจะลงไปตั้งรับเป็นหลัก ซึ่งในสถานการณ์เดียวกันนี้ บาร์เซโลน่าในยุครุ่งเรืองสามารถทำได้ดีกว่ามาก
แต่กลับกันเมื่อลงเล่นบนเวทีแชมเปียนส์ลีก เรอัล มาดริด สามารถเล่นบอลที่ถนัดได้ และทำผลงานได้ดีกว่าเดิม แม้จะเจอทีมที่เก่งกว่าในลีก
เพราะบรรดาทีมคุณภาพดีเหล่านั้นไม่หวาดกลัวทีมดังจากสเปน และพร้อมเปิดหน้าสู้ ซึ่งท้ายที่สุด เรอัล มาดริด แสดงให้เห็นถึงความเก๋า และเป็นฝ่ายปิดบัญชีคู่แข่งได้ทุกครั้ง เนื่องจากแทคติกของพวกเขาในหลายปีหลัง ถนัดที่จะเล่นเกมรับ เพื่อรอจังหวะโจมตีด้วยบอลสวนกลับรวดเร็วมากกว่า
ทั้งเรื่องของสภาพจิตใจ, คุณภาพนักเตะ และแทคติก ทั้งหมดล้วนผสมผสานให้เรอัล มาดริด เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่างแท้จริง ดังนั้นแล้ว การจะพูดว่าทัพราชันชุดขาวแข็งแกร่งในฟุตบอลรายการสูงสุดของยุโรปเสมอ จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand