การได้ไปเล่นฟุตบอลโลกสักครั้งหนึ่งในชีวิตถือเป็นความฝันของนักฟุตบอลทั่วโลก ไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม นับตั้งแต่ฟุตบอลโลกที่อุรุกวัยในปี 1930 มี 13 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้าย เริ่มเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายเป็น 32 ทีม จนถึงปี 2026 ที่จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายมากถึง 48 ทีม
หลายๆคนอาจพึงพอใจแค่เข้าร่วมการแข่งขัน แต่บางคนต้องการไปถึงจุดสูงสุดที่เรียกกันว่า “แชมป์โลก”
ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลโลก
บราซิลเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลโลกด้วยคว้าแชมป์ไปแล้ว 5 สมัย ตามมาด้วยอิตาลีและเยอรมนีที่คว้าแชมป์ครั้งละ 4 สมัย
บราซิล (5 สมัย)
1958: เปเล่วัย 17 ปี ซัดสองประตูช่วยให้บราซิลถล่มเจ้าภาพสวีเดน 5-2
1962:อมาริลโด้, ซิโต่ และวาว่า ช่วยบราซิลชนะเชโกสโลวาเกีย 3-1 ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
1970: เปเล่สั่งลาฟุตบอลโลกด้วยการยิง 1 ประตูช่วยให้บราซิลชนะอิตาลี 4-1
1994: แชมป์ทีมแรกที่ต้องตัดสินด้วยลูกจุดโทษ หลังโรแบร์โต้ บัจโจ้ยิงจุดโทษข้ามคาน
2002: โรนัลโด้เหมาสองช่วยบราซอลชนะเยอรมนีบนแผ่นดินญี่ปุ่น
อิตาลี (4 สมัย)
1934: อังเจโล่ เชียวิโอ ยิงประตูชัยช่วงต่อเวลาพิเศษ ช่วยอิตาลีชนะเชโกสโลวาเกีย 2-1
1938: จิโน่ โคลาอุซซี และซิลวิโอ ปิโอลา ยิงคนละ 2 ประตู ช่วยอิตาลีถล่มฮังการี 4-2 ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
1982: เปาโล รอสซี่, มาร์โก ทาร์เดลลี และอเลสซานโดร อัลโตเบลลี ช่วยให้อิตาลีชนะเยอรมนีตะวันตก 3-1 คว้าแชมป์โลกในรอบ 44 ปี
2006: ซีเนอดีน ซีดานของฝรั่งเศสโดนไล่ออก อิตาลีชนะจุดโทษจากฟาบิโอ กรอสโซ่
เยอรมนี (4 สมัย)
1954: เฮลมุน ราห์น สร้างปาฏิหาริย์แห่งกรุงเบิร์น ด้วยการพลิกชนะฮังการี 3-2
1974: แกร์ด มุลเลอร์ วอลเลย์สุดสวยช่วยเยอรมนีตะวันตกชนะเนเธอร์แลนด์ 2-1
1990: อันเดรียส เบร่ห์เม่ ยิงจุดโทษช่วยเยอรมนีตะวันตกชนะอาร์เจนตินา 1-0
2014: มาริโอ เกิตเซ่ ลุกจากม้านั่งสำรองยิงประตูชัยช่วงต่อเวลาช่วยเยอรมนีชนะอาร์เจนตินา 1-0
อุรุกวัย (2 สมัย)
1930: อุรุกวัยพลิกสถานการณ์ในครึ่งหลัง ถล่มอาร์เจนตินาในนัดชิงชนะเลิศ 4-2
1950: อัลซิเดส กิกเกียทำประตูชัยช่วงท้ายเกม ช่วยอุรุกวัยดับฝันบราซิลที่มาราคาน่า
อาร์เจนตินา (2 สมัย)
1978: มาริโอ เคมเปสยิง 2 ประตูช่วยให้อาร์เจนตินาชนะเนเธอร์แลนด์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-1
1986: ฮอร์เก้ บูร์ราชูก้า ทำประตูชัยช่วงท้ายเกมช่วยอาร์เจนตินาชนะเยอรมนีตะวันตก 3-2
ฝรั่งเศส (2 สมัย)
1998: ซีเนอดีน ซีดาน และเอ็มมานูเอล เปอตีต์ช่วยกันทำประตูให้ฝรั่งเศสครองแชมป์ในบ้านด้วยการชนะบราซิล 3-0
2018: คิเลียน เอ็มบั๊ปเป้โชว์ลสดลายช่วยฝรั่งเศสชนะโครเอเชีย 4-2
อังกฤษ (1 สมัย)
1966: แฮตทริกของเจฟฟ์ เฮิร์สท์ช่วยอังกฤษคว้าแชมป์ในบ้านด้วยการชนะเยอรมนีตะวันตกในช่วงต่อเวลา 4-2
สเปน (1 สมัย)
2010: อันเดรส อิเนียสต้า ยิงประตูชัยในนาทีที่ 116 ทำให้สเปนชนะเนเธอร์แลนด์ 10 คน 1-0
ทำเนียบแชมป์ฟุตบอลโลก
ปี |
แชมป์ |
รองแชมป์ |
อันดับ 3 |
1930 |
Uruguay |
Argentina |
United States |
1934 |
Italy |
Czechoslovakia |
Germany |
1938 |
Italy |
Hungary |
Brazil |
1950 |
Uruguay |
Brazil |
Sweden |
1954 |
West Germany |
Hungary |
Austria |
1958 |
Brazil |
Sweden |
France |
1962 |
Brazil |
Czechoslovakia Scroll to Continue with Content
|
Chile |
1966 |
England |
West Germany |
Portugal |
1970 |
Brazil |
Italy |
West Germany |
1974 |
West Germany |
Netherlands |
Poland |
1978 |
Argentina |
Netherlands |
Brazil |
1982 |
Italy |
West Germany |
Poland |
1986 |
Argentina |
West Germany |
France |
1990 |
West Germany |
Argentina |
Italy |
1994 |
Brazil |
Italy |
Sweden |
1998 |
France |
Brazil |
Croatia |
2002 |
Brazil |
Germany |
Turkey |
2006 |
Italy |
France |
Germany |
2010 |
Spain |
Netherlands |
Germany |
2014 |
Germany |
Argentina |
Netherlands |
2018 |
France |
Croatia |
Belgium |