หลังจากตกชั้นอย่างเจ็บช้ำจากพรีเมียร์ลีกสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในลีกรองฤดูกาลนี้ พวกเขาเก็บได้ถึง 65 คะแนนจาก 26 นัด นำโด่งเป็นจ่าฝูงโดยมีคะแนนทิ้งห่างอันดับสองอย่างอิปสวิช ทาวน์ ถึง 10 คะแนน
หนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับทางสุนัขจิ้งจอกคือจอมทัพในแดนกลางอย่าง เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ที่ก้าวขึ้นมาทดแทนมิดฟิลด์ตัวหลักที่อำลาทีมไปอย่าง เจมส์ แมดดิสัน และยูริ ติเลอมองส์ จนกลายเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้ในทีมของเอ็นโซ มาเรสก้า ไปเรียบร้อย
จากนักเตะที่เร่รอนพเนจรเรียนรู้ประสบการณ์ลูกหนังจากการยืมตัวไปสู่ทีมรอง ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในทีมเลสเตอร์ โดยใช้แรงบันดาลใจจากความชื่นชอบในละครเวทีแบบ West End shows เพื่อทำผลงานในสนาม
เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไร ติดตามที่นี่
ร่วมสนุกทำนายผลการแข่งขันเพื่อรับรางวัลใหญ่
แรงบันดาลใจจากละครเวที
เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ เพิ่งให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอีเอฟแอลว่าเขานั้นชื่นชอบการดูละครเวทีมากเป็นพิเศษ และมีบางส่วนที่คล้ายคลึงกับฟุตบอล และนำมาปรับใช้ในสนามได้
"ผมเป็นแฟนตัวยงของ West End shows และผมเคารพอุตสาหกรรมนั้น รวมถึงคนที่อยู่ในนั้นมาก" ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ กล่าว "ผมมีเพื่อนมากมายในธุรกิจนั้น และมันมีความคล้ายคลึงกันมากกว่าที่คุณอาจจะคิด
"งานของพวกเขาคือสร้างความบันเทิงบนเวที ส่วนผมก็อยู่ที่นี่เพื่อสร้างความบันเทิงในสนาม ผมรู้สึกว่ามันมีความเกี่ยวข้องกัน และผมก็นำกลเม็ดและเคล็ดลับบางอย่างจากพวกเขามาปรับใช้ แม้ว่ามันจะเป็นชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
"ผมรู้สึกว่าในแง่ของชีวิตส่วนตัวของผม ผมอยู่ในทีมชุดใหญ่มาหลายปีแล้ว ผมกลมกลืนเข้ากับทีมได้ดี และตอนนี้ผมก็อยากจะรับบทนำบ้างแล้ว
"ผมอาจจะไม่ใช่คนที่พูดมากที่สุดในทีม แต่ผมพยายามจะทำตัวเป็นแบบอย่างในสนาม ผมอยากจะช่วยใครก็ตามให้ได้มากที่สุด หวังว่ามันจะเป็นบทที่ประสบความสำเร็จในชีวิตค้าแข้งของผม"
ไม่ใช่ดาวรุ่งพุ่งแรง แต่เรียนรู้จากการยืมตัว
ในสมัยที่ยังเป็นนักเตะดาวรุ่ง ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ไม่ใช่ผู้เล่นที่โดดเด่นมากนัก เขาต้องรอจนถึงอายุ 21 ปี กว่าจะได้รับโอกาสลงสนามในฐานะผู้เล่นชุดใหญ่ครั้งแรก ในเกมเอฟเอ คัพ ที่เสมอเบรนท์ฟอร์ด ในบทบาทตัวสำรองจากข้างสนาม
จากนั้นก็ถูกส่งไปให้สโมสรอื่นยืมตัวไปใช้งาน กับแบล็คพูลในลีกวัน และลูตันในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นประสบการณ์ที่มีส่วนช่วยเขาอย่างมาก
"ผมคงไม่เปลี่ยนอะไรกับเส้นทางของผม และผมมองย้อนกลับไปเป็นความทรงจำที่สวยงาม ผมพอใจมากที่ผมถูกยืมตัวไปอยู่ทีมอื่น เพราะมันช่วยให้ผมเป็นคนอย่างทุกวันนี้
"ชีวิตค้าแข้งของผมกับแบล็คพูลได้เล่นกับนักเตะมากประสบการณ์มากมาย ทั้ง เจย์ สเปียริง และแกรี มาดีน แถมยังมีคนอีกมากมายที่อยู่ในอีเอฟแอลมานาน ก็ถูกโยนลงไปสุดทางแบบนั้นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับผม และทำให้ผมเติบโตขึ้นมาก
"จากนั้นก็ไปอยู่กับลูตัน และได้เล่นเต็มฤดูกาลในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากกับพัฒนาการของผม ผมรู้สึกว่านั่นคือตอนที่ผมเติบโตจากเด็กคนหนึ่งมาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
"ผมให้ค่าความสำเร็จของผมจากการยืมตัวเหล่านั้นมากๆ เพราะถ้าไม่มีมัน เส้นทางของผมก็คงแตกต่างไปจากตอนนี้"
หัวใจเลสเตอร์แท้
ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ เป็นแฟนบอลเลสเตอร์มาตั้งแต่เด็ก และเติบโตมาจากย่านนั้น ซึ่งตัวเขายอมรับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้เขาทุ่มเทกับสโมสรแห่งนี้เป็นพิเศษ
"ครอบครัวของผมเป็นแฟนเลสเตอร์ และผมก็มาจากย่านนั้น ผมว่ามันน่าจะมีความหมายกับผมมากเป็นพิเศษ เพราะผมอยู่กับมัน และหายใจอยู่ที่นี่มามากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต
"ตอนมีช่วงเวลาแย่ๆ เข้ามา มันทำให้ผมเจ็บปวดมากเป็นพิเศษ แต่พอมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น ผมก็มีความสุขกับมันมากกว่า
"ผมยังจำได้เลยว่าตอนที่ผมยังเด็ก และเห็นคนขึ้นไปจากอคาเดมี ผมคิดว่าแฟนบอลคือคนสำคัญของเรื่องนั้น เพราะพวกเขารู้ดีว่าเราเป็นแค่คนธรรมดาจากพื้นที่ตรงนั้น ผมหวังว่าพวกเขาจะได้เห็นการทำงานอย่างหนักที่ผมลงแรงไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนได้มาอยู่ตรงนี้"
ความสัมพันธ์กับ เอ็นโซ มาเรสก้า
อีกหนึ่งคนสำคัญที่มีบทบาทอย่างมากต่อการเติบโตของ ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือ เอ็นโซ มาเรสก้า กุนซือใหม่ของเลสเตอร์ในฤดูกาลนี้ ที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างเต็มภาคภูมิ
"ผมประทับใจกับเขาตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาที่สโมสร ตั้งแต่วันแรก เขาก็ให้พวกเรานั่งลงและอธิบายว่าเขาอยากให้เราเล่นแบบไหน สไตล์ชของเขา และสิ่งที่เขาอยากจะเข้ามาจัดการ ไม่ใช่แค่เรื่องในสนาม แต่รวมถึงวัฒนธรรมของสโมสรด้วย
"เขาฉลาดมากๆ เขาทำให้คุณคิดเรื่องฟุตบอลอีกแบบไปเลย มีอยู่หลายครั้งในช่วงปรีซีซันที่พวกเราที่เป็นนักเตะรู้สึกเป็นคนโง่ไปเลย เพราะเขาพูดในสิ่งที่เรามองไม่เห็นหรือไม่เข้าใจในตอนนั้น แต่มันกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ในตอนนี้
"เขาเป็นคนที่ทุ่มเทมากๆ และผมก็เป็นคนที่ทุ่มเทมากๆ ในเรื่องฟุตบอลเช่นกัน เราเลยเข้ากันได้ดีมากๆ ผมคุยกับเขาแบบตัวต่อตัวเกี่ยวกับเกมของผม และเขาก็ช่วยพัฒนาตัวผมในหลายๆ เรื่อง
"เขาเคยเล่นในระดับสูง และเขาก็เคยทำงานกับผู้จัดการทีมชั้นนำมากมาย ระดับของเขาสูงมากๆ และเมื่อไหร่ที่เขาพูดบางอย่าง คุณก็จำเป็นต้องฟัง เขาอาจจะมาอยู่แค่ไม่กี่เดือน แต่เขามีผลอย่างมาก มันตื่นเต้นมากเมื่อได้คิดว่าเขาจะทำอะไรได้อีกในอนาคต"
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand