อิชิอิ vs. พัค ฮังซอ : เปิดจุดเด่น-จุดด้อย ใครเหมาะเป็นโค้ชใหม่ทีมชาติไทย

11-18-2023
2นาทีที่อ่าน
H.T

หลังจากความแพ้ของทีมชาติไทยต่อทีมชาติจีน 1-2 ในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา ทำให้กระแสเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงโค้ชเกิดขึ้นอย่างมาก 

ซึ่ง 2 คนที่กำลังเป็นข่าวว่าสนใจจะมาคุมทีมแทนที่ มาโน่ โพลกิ้ง ได้แก่ มาซาดาดะ อิชิอิ อดีตโค้ชของบุรีรัมย์ และ พัค ฮังซอ อดีตของทีมชาติเวียดนาม

วันนี้ The Sporting News จึงจับโค้ชทั้งสองคนมาเทียบกันว่า ระหว่าง อิชิอิ และ พัค ฮังซอ ใครมีจุดเด่น และจุดด้อยตรงไหน และใครเหมาะกับการเป็นโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่มากกว่ากัน 

อิชิอิ vs. พัค ฮังซอ : เปิดจุดเด่น-จุดด้อย ใครเหมาะเป็นโค้ชใหม่ทีมชาติไทย

Buriram United

มาซาทาดะ อิชิอิ

จุดเด่น

จุดเด่นของอิชิอิคือผ่านการทำงานในประเทศไทยมาแล้วหลายปี ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องปรับตัวกับระบบฟุตบอลแบบ “ไทยๆ” สามารถทำงานร่วมกับผู้มีอำนาจในสมาคมฟุตบอลไทยได้อย่างไม่ยาก และอิชิอิก็เคยมารับตำแหน่งประธานเทคนิคทีมชาติไทยอยู่ช่วงหนึ่ง จึงคุ้นเคยกับระบบการทำงานภายในของทีมชาติไทยเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ อิชิอิ มีประสบการณ์ในการคุมสโมสรไทย ทั้งทีมระดับใหญ่ลุ้นแชมป์ แบบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือทีมที่เล็กกว่า อย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ ดังนั้นอิชิอิมีความเข้าใจนักเตะไทยทุกรูปแบบ ทั้งนักเตะระดับทีมชาติ ไปจนถึงแข้งรากหญ้า ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่เขาทำงานกับฟุตบอลไทยได้สะดวก

รวมถึงแทคติคของอิชิอิยังมีความหลากหลาย สามารถแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะคุมทีมใหญ่ หรือทีมเล็ก ก็สร้างทีมที่ผลงานดีได้ตลอด รวมถึงมีวิธีการสร้างแทคติคด้วยฟุตบอลเท้าสู่เท้า ซึ่งถูกใจนักฟุตบอลทีมชาติไทยมากกว่า

จุดด้อย

จุดด้อยของอิชิอิ ก็คือส่วนหนึ่งจากจุดเด่นของเขา นั่นคือเพราะว่าอิชิอิทำงานในไทยมานาน ดังนั้นเขาสามารถที่จะทำงานในระบบแบบ “ไทยๆ” ต่อไปได้ ซึ่งคงไม่ตอบโจทย์แฟนบอลไทยบางส่วน ที่อยากเห็นทีมชาติไทยทำงานแบบมืออาชีพมากขึ้น ลดระบบพวกพ้องให้น้อยลง

และยิ่งอิชิอิอยู่ในไทยมานาน เขาจึงย่อมเคยผ่านประสบการณ์การล้วงลูกจากคนมีอำนาจ หากอิชิอิได้เป็นโค้ชทีมชาติไทย ก็คงมีการล้วงลูกเกิดขึ้นเช่นเดิม และอาจเกิดปัญหาเหมือนยุคปัจจุบันของ มาโน่ โพลกิ้ง เช่น การยอมให้สโมสรไม่ปล่อยนักเตะมาเล่นทีมชาติในเกมอุ่นเครื่อง

ร่วมสมัครเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันฟุตบอลไทยได้ที่นี่

นอกจากนี้คุณสามารถ เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

Hoàng Tùng

พัค ฮังซอ 

จุดเด่น

จุดเด่นของพัค ฮังซอ คือความเด็ดขาด และความเอาจริงเอาจังซึ่งถือเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในทีมชาติไทยมาอย่างยาวนาน

Scroll to Continue with Content

พัค ฮังซอ จะไม่ยอมให้ใครมาล้วงลูกการทำงานของเขา และเขาต้องมีอำนาจการตัดสินใจสูงสุดในการสร้างทีม ซึ่งวิธีนี้ได้ผลมาแล้วกับทีมชาติเวียดนาม จึงย่อมมีสิทธิ์จะประสบความสำเร็จกับไทยแน่นอน อีกทั้งการให้โอกาสโค้ชทำงานด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ ก็ย่อมดีกว่าให้คนนอกมาล้วงลูกอยู่แล้ว

นอกจากนี้ พัค ฮังซอ ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการซ้อมที่เข้มข้น และมีระเบียบวินัย ซึ่งก็เหมาะกับทีมชาติไทยในตอนนี้ ที่ดูขาดระเบียบวินัย และความดุดันในการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก ทั้งในสนามแข่ง และสนามซ้อม (พัค ฮังซอ ไม่ยอมให้นักเตะมาดีดหูเขาเล่นแน่นอน)

ดังนั้น หากคุณเบื่อฟุตบอลแบบ “ไทยๆ” พัค ฮังซอ คือคนที่เหมาะสมกับการเข้ามารีเซ็ตระบบใหม่ให้ทีมชาติไทย เดินเข้าสู่การทำงานที่มีระบบ และระเบียบมากขึ้น

จุดด้อย 

จุดด้อยคือด้วยการทำงานที่ดุดัน และจริงจังของพัค ฮังซอ ก็ถือว่ามีสิทธิ์มากที่จะทำให้เขามีปัญหากับคนในทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร หรือตัวนักฟุตบอล 

นอกจากนี้ แทคติคของ พัค ฮังซอ ยังเน้นความมีระเบียบวินัย การเล่นเป็นระบบ และต้องเป็นไปตามแผนการที่เข้าสั่ง ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่นักฟุตบอลไทยชอบ 

อีกทั้งแทคติคของโค้ชชาวเกาหลีใต้ ยังนิยมเกมตั้งรับ และสวนกลับอย่างเป็นระบบ ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่นักฟุตบอลไทยชื่นชอบอีกเช่นเดียวกัน เพราะ มิโลวาน ราเยวัช ก็เคยมีข่าวลือว่าถูกนักเตะเลื่อยขาจนตกเก้าอี้โค้ชทีมชาติไทย เพราะใช้แทคติคฟุตบอลเกมรับมาแล้ว

ใครเหมาะเป็นโค้ชใหม่ทีมชาติไทย? 

คำตอบก็คือเหมาะทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการสไตล์ไหน 

ถ้าไม่ได้มีปัญหากับการทำงานแบบไทย ๆ แค่ต้องการโค้ชที่เก่งขึ้น คำตอบคือ มาซาทาดะ อิชิอิ

แต่ถ้าเบื่อการทำงานแบบไทย ๆ ต้องการปฏิวัตฟุตบอลไทยใหม่ อยากเห็นฟุตบอลที่มีระเบียบ เล่นเป็นระบบ ทั้งใน และนอกสนาม คำตอบคือ พัค ฮังซอ 

ร่วมสมัครเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันฟุตบอลไทยได้ที่นี่

นอกจากนี้คุณสามารถ เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา The Sporting News 

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand