กลายเป็นข่าวที่เรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี หลังจากมีข่าวหลุดออกมาว่า นักฟุตบอลทีมชาติไทยต้องแวะกินอาหารจากร้านแมคโดนัลด์ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์เพื่อคลายความหิว เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับทีมชาติไทย
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวโด่งดัง แม้แต่ในการแถลงข่าวก่อนเกม ระหว่างทีมชาติไทยกับแอสโตเนีย กฤษดา กาแมน แข้งทีมชาติไทยก็ต้องตอบคำถามเรื่องนี้ หลังโดนสื่อในห้องแถลงข่าวยิงคำถามว่า “เป็นไงบ้างแวะกินแมคโดนัลด์?”
ไม่ต้องสงสัยว่า เหตุผลที่ข่าวนี้เป็นที่สนใจ เพราะใครที่คลุคลีกับวงการกีฬาก็คงรู้ว่าอาหารแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะสำหรับคนที่เป็นนักกีฬาอาชีพยิ่งไปกันใหญ่ แต่เพราะการจัดการที่ย่ำแย่ของผู้มีอำนาจในวงการฟุตบอลไทย ทำให้แข้งช้างศึกไม่มีทางเลือกต้องกินอาหารแบบนี้เพื่อประทังชีวิต
วันนี้ The Sporting News จะพาทุกคนไปดูว่า อาหารแมคโดนัลด์แท้จริงแล้วส่งผลเสียต่อนักกีฬามากน้อยแค่ไหน
อาหารแมคโดนัลด์ส่งผลเสียต่อนักกีฬาแค่ไหน? หลังแข้งไทยต้องกินประทังชีวิต
แน่นอนว่าอาหารในร้อนแมคโดนัลด์มีมากมายหลายชนิด แต่ที่โด่งดังที่สุดก็คงหนีไม่พ้นแฮมเบอร์เกอร์ อาหารขึ้นชื่อของร้าน ซึ่งแฮมเบอร์เกอร์แต่ละแบบก็ให้พลังงานที่แตกต่างกัน เรียกได้ว่ามีตั้งแต่ประมาณ 251 แคลลอรี่ต่อชิ้น ไปจนถึงมากกว่า 800 แคลลอรี่ต่อชิ้น
แต่สำหรับแฮมเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ที่เป็นที่ยอดนิยมของคนไทย ย่อมหนีไม่พ้น “บิ๊กแมค” เมนูเด็ดของร้าน ซึ่งให้พลังงานอยู่ที่ 493 แคลลอรี่ต่อชิ้น
จำนวนแคลลอรี่ถือว่าไม่น่ากลัว แต่ที่น่ากลัวจริง ๆ ของเจ้าบิ๊กแมค คือไขมันที่มอบให้กับร่างกายมนุษย์
เพราะบิ๊กแมคให้ไขมันแก่ร่างกาย 24 กรัมต่อ 1 ชิ้น ซึ่งคิดเป็น 34 เปอร์เซนต์ที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน และที่หนักกว่านั้นคือไขมันอิ่มตัว เพราะบิ๊กแม็คให้ไขมันอิ่มตัวแก่ร่างกาย 8.8 กรัมต่อ 1 ชิ้น คิดเป็น 44 เปอร์เซนต์ที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน
การกินเบอร์เกอร์แมคโดนัลด์จึงไม่ต่างอะไรกับการกินไขมันจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่นักกีฬาไม่ควรทำอย่างมาก เพราะเราเห็นได้ชัดเจนว่าแฮมเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์ให้ไขมันเยอะแค่ไหน หากเทียบกับไขมันที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน ซึ่งนักกีฬาย่อมต้องการไขมันน้อยกว่าคนทั่วไป ดังนั้นมันจึงแย่กว่าเดิม เมื่อนักกีฬากินอาหารแมคโดนัลด์
อย่างไรก็ดี แมคโดนัลด์ก็มีอาหารบางรายการที่ไม่ได้ทำร้ายสุขภาพมากจนเกินไป เช่น แมคฟิช เบอร์เกอร์ปลาชื่อดังของแมคโดนัลด์ ซึ่งให้พลังงาน 319 แคลลอรี่ และให้ไขมัน 12 กรัมต่อ 1 ชิ้น คิดเป็น 17 เปอร์เซนต์ที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน และไขมันอิ่มตัว 2.3 กรัม คิดเป็น 11 เปอร์เซนต์ที่มนุษย์ควรได้รับในแต่ละวัน ซึ่งหากนักบอลไทยเลือกกินแมคฟิช แทนที่จะเป็นบิ๊กแมค ก็พอจะลดผลเสียต่อร่างกายลงไปได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม นี่คือสถานการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับนักกีฬาอาชีพ เพราะสุดท้ายแล้วอาหารของแมคโดนัลด์ก็ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่ดี เพราะอาหารแมคโดนัลด์ สามารถก่อให้เกิดโรคอย่าง ความดันสูง, คลอเรสเตอรอลสูง และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือกสูงขึ้นได้ด้วย
และหากผู้มีอำนาจในวงการฟุตบอลไทย สนใจนักฟุตบอลมากกว่านี้ มีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ เรื่องราวแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น จนถูกนักข่าวต่างแดนเอาไปล้อเลียนแบบนี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.mcdonalds.com/gb/en-gb/good-to-know/nutrition-calculator.html
https://www.healthline.com/health-news/mcdonalds-diet-weight-loss#Dangers-of-the-all-McDonalds-diet
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา The Sporting News
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand