ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และถึงเวลาที่เราจะไปรู้จักกับทุกทีมในฟุตบอลโลก เริ่มต้นจากกลุ่มเอ ของเจ้าภาพ อย่าง กาตาร์ ที่มีกระดูกชิ้นโต อย่าง เนเธอร์แลนด์ รวมถึงสองทีม้ามืดลุ้นเข้ารอบ อย่าง เอกวาดอร์ และเซเนกัล
กาตาร์ : บุกบ้านไข่มุกแห่งเปอร์เซีย
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ฟุตบอลถูกนำเข้ามาที่ประเทศกาตาร์นับตั้งแต่ช่วงปี 1940 ซึ่งถือเป็นช่วงที่ค้นพบแหล่งน้ำมันภายในประเทศ คนงานน้ำมันที่เป็นชาวต่างชาติก็ได้นำฟุตบอลเข้ามาด้วย พวกเขาเหล่านั้นก็เล่นฟุตบอลและมีการเผยแพร่กันมานับตั้งแต่ช่วงนั้น ก่อนที่จะมีการก่อตั้งสมาคมฟุตบอลกันอย่างจริงจังก็ในปี 1963 โดยพวกเขาก็ได้เป็น่สวนหนึ่งของฟีฟ่านับตั้งแต่ช่วงเวลานั้น
ทีมชาติกาตาร์แน่นอนว่าด้วยความที่ไม่ได้แข็งแกร่งนักด้านฟุตบอลก็จะมีทั้งช่วงเวลาที่ขึ้นและลงอยู่เรื่อยๆ แต่ช่วงนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงที่ดีที่สุดแล้วสำหรับฟุตบอลทีมชาติของพวกเขา โดยพวกเขาก็เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลระดับนานาชาติมาบ้าง โดดเด่นที่สุดน่าจะเป็นแชมป์เอเชียนคัพในปี 2019 ซึ่งถือเป็นครั้งล่าสุดที่มีการจัดการแข่งขันนี้เกิดขึ้นนั่นเอง
สำหรับกาตาร์แล้วพวกเขาไม่เคยได้เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งนี่ถือเป็นชาติเจ้าภาพทีมแรกที่ไม่เคยได้เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก่อนที่จะได้เป็นเจ้าภาพ แน่นอนว่าการที่พวกเขาได้เล่นในบ้านของตัวเองนั้นถือเป็นจุดแข็งของพวกเขาในฟุตบอลโลกคราวนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
พวกเขาเคยคว้าแชมป์มาแล้วก็คือเอเชียนคัพในปี 2019 หลังเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นในนัดชิงชนะเลิศไปได้ โดยที่นั่นถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของพวกเขาแล้ว ขณะที่ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายพวกเขายังไม่เคยลงเล่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นักเตะเด่น : อัคราม อาฟิฟ
นักเตะแนวรุกชาวกาตาร์ ในช่วงเริ่มต้นอาชีพของเขาถูกมองว่านี่คือหนึ่งในดาวรุ่งที่มีโอกาสจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของประเทศเลยทีเดียว เขาโดดเด่นมากในทัวร์นาเมนต์เอเชียนคัพในปี 2019 จนมีชื่อได้ลุ้นนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ รวมถึงในปีเดียวกันยังเป็นนักเตะเอเชียแห่งปีด้วยจากการให้รางวัลของเอเอฟซี
----------
เอกวาดอร์ : คอนดอร์สามสีตีปีก
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติเอกวาดอร์ถือว่าไม่ใช่ชาติที่โดดเด่นนักในด้านฟุตบอล โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับทีมชาติในทวีปเดียวกันอย่างทวีปอเมริกาใต้ที่ต่างก็มีชาติมหาอำนาจมากมายในนั้น ซึ่งพวกเขาก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้เท่านั้นเอง
โดยที่ ผู้คนจดจำพวกเขาในชุดแข่งสีเหลืองที่เป็นสีประจำของธงชาติของพวกเขา โดยทั่วไปชุดของพวกเขาจะเป็นการสวมเสื้อแข่งสีเหลือง กางเกงสีน้ำเงิน และถุงเท้าสีแดง อาจจะเปลี่ยนลวดลายไปตามปีแต่จะคงสีในรูปแบบนี้เอาไว้เสมอ
แท้จริงแล้วเอกวาดอร์ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ถูกเชิญในช่วงการแข่งขันครั้งแรกๆของฟุตบอลโลก 6 สมัยแรกในปี 1930-1958 พวกเขาเลือกที่จะปฎิเสธการเข้าร่วมแข่งขันเนื่องจากว่าประเทศไม่สามารถอนุมัติเรื่องของการเงินให้กับทีมเพื่อบินไปแข่งในชาติต่างๆได้
จนกระทั่งพวกเขามีโอกาสได้แข่งรอบคัดเลือกเพื่อแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1962 และกว่าที่จะได้แข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายต้องรอนานถึงฟุตบอลโลกในปี 2002 โดยที่ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาในฟุตบอลโลกคือในปี 2006 ที่สามารถผ่านได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนที่จะแพ้ให้กับทีมชาติอังกฤษ
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
พวกเขาไม่ใช่ทีมที่ประสบความสำเร็จอะไรในด้านฟุตบอล พวกเขาไม่เคยได้แม้แต่แชมป์เดียวในการแข่งขันระดับชาติ สำหรับทีมชาติชุดใหญ่ ผลงานดีที่สุดในฟุตบอลโลกคือการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน
นักเตะเด่น : มอยเซส ไซเซโด้
มอยเซส ไซเซโด้ ดาวรุ่งจาก ไบรท์ตัน ที่ฉายแสงตลอดช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะลงเล่นพรีเมียร์ลีกไปเพียงไม่กี่นัดเท่านั้นแต่ว่าเขาทำให้ทีมใหญ่ๆมากมายเข้ามาสนใจ ในวัย 21 ปี ถือเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้แสดงศักยภาพให้โลกได้รู้ถึงความเก่งของเขา และอนาคตที่ดีจะอยู่ข้างหน้าเขาแน่นอนหากเขาสามารถช่วยทีมชาติ เอกวาดอร์ผ่านเข้ารอบลึกๆของฟุตบอลโลกในคราวนี้
-----
เซเนกัล : เมื่อสิงโตแห่งกาฬทวีปได้เวลาเติบโต
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติเซเนกัล ถือว่าไม่ได้แข็งแกร่งหากมองตามหน้าประวัติศาสตร์โดยภาพรวมของชาติในแอฟริกา พวกเขาไม่ได้คว้าแชมป์มากมายหรือได้ไปฟุตบอลโลกบ่อยครั้งนัก แต่ในช่วงราวๆ 2 ทศวรรษหลังสุดอาจบอกได้ว่านี่กำลังเป็นยุคทองของทัพสิงโตแห่งกาฬทวีป
ฟุตบอลโลกครั้งแรกของพวกเขาคือฟุตบอลโลกในปี 2002 ซึ่งในครั้งนั้นพวกเขาทำผลงานได้ดีสุดๆขนาดที่สามารถทะลุไปไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเลยทีเดียว ก่อนที่จะได้มีโอกาสลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้งในปี 2018 แต่คราวนี้พวกเขาตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆของพวกเขาเมื่อมีนักเตะชื่อดังมากมายอยู่ในทีมที่เติบโตในลีกใหญ่ของยุโรป มันดีพอที่จะช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์มาครองได้ในปี 2021 อาจเรียกได้ว่าในตอนนี้คือยุคทองของพวกเขาเลยก็ว่าได้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
พวกเขาคือชาติล่าสุดที่สามารถคว้าแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์มาครองได้สำเร็จ นั่นถือเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในรายการนี้ ส่วนในฟุตบอลโลกผลงานที่ดีที่สุดคือฟุตบอลโลก 2002 ที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย
นักเตะเด่น : คาลิดู คูลิบาลี่
สำหรับทีมชาติเซเนกัลแล้วถือว่าน่าเสียดายที่พวกเขาจะต้องขาดนักเตะอย่าง ซาดิโอ มาเน่ ที่บาดเจ็บก่อนการแข่งขัน หากเลือกชื่ออื่นคงเป็นคาลิดู คูลิบาลี่กองหลังตัวเก๋าที่ในตอนนี้อยู่กับเชลซี โดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้โชว์ฟอร์มที่แข็งแกร่งมากๆกับสโมสรนาโปลี ช่วยให้เกมรับแข็งแกร่งมากๆ แม้ไม่ได้คว้าแชมป์อะไรมากมายแต่เขาถือเป็นคนสำคัญในแนวรับของทีมชาติเซเนกัลที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
----
เนเธอร์แลนด์ : พระรองตลอดกาลถึงเวลาคว้าแชมป์?
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ถือว่ามีชื่อเสียงฟุตบอลมาเสมอ พวกเขาได้รับการชื่นชมมากๆในช่วงทศวรรษ 1970 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการเล่นที่มีชื่อว่า โททัลฟุตบอล ที่ถือเป็นศาสตร์ฟุตบอลขั้นสูงในยุคนั้น ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่ รวมถึงพวกเขามีนักเตะเทวดาอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ ซึ่งถือเป็ดาวเด่นของทีมที่ช่วยให้ทีมชาติไปถึงการเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1974 โดยที่แพ้ให้กับทีมชาติเยอรมันตะวันตกในนัดชิงชนะเลิศไป
ในประวัติศาสตร์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์สวมบทพระรองตลอดกาล พวกเขามีโอกาสเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศได้ถึง 3 ครั้งในฟุตบอลโลกปี 1974, 1978 และ 2010 ซึ่งมาด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมแต่สุดท้ายพวกเขาก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้เสมอ ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุดๆเมื่อมองย้อนกลับไป
ครั้งล่าสุดที่พวกเขาได้เล่นฟุตบอลโลก คือฟุตบอลโลกปี 2014 ที่ประเทศบราซิลโดยทำผลงานได้ดีอีกเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะจบเป็นอันดับที่ 3 จากการทำทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล โดยที่ในคราวนี้ ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์คนนี้ก็เป็นคนคุมทีมอีกเช่นเดียวกัน ภายใต้ปรัชญาการเล่นแบบเดิมที่คุ้นเคย
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่นในอดีต
เนเธอร์แลนด์ เป็นทีมที่เก่งแต่ถือว่าได้แชมป์ไม่มากนัก พวกเขามีความน่าหลงไหลในวิธีการเล่นอยู่เสมอ โดยที่พวกเขาเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัย คือในปี 1974 , 1978 และ 2010 รวมถึงอันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลกในปี 2014 และ อันดับ 4 ฟุตบอลโลก ในปี 1998
โดยที่แชมป์ในระดับชาติของพวกเขามีเพียงแชมป์ยูโร 1988 ครั้งเดียวเท่านั้น ที่เป็นผลงานโดดเด่นนำโดย 3 ทหารเสือดัตช์อย่าง มาร์โก ฟาน บาสเท่น, รุด กุลลิท และ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด
นักเตะเด่น : เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
กองหลังที่ครั้งหนึ่งเคยได้ลุ้นบัลลงดอร์ เขาถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลสโมสรยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกประสบความสำเร็จในยุคหลังกับฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมลิเวอร์พูลที่ได้ลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาล 2021/22 ก่อนที่จะคว้ามาได้ 2 แชมป์เมื่อจบฤดูกาล นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงเล่นในฟุตบอลโลก ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญที่เขาจะได้โชว์ศักยภาพช่วยให้ทีมชาติของเขาได้เข้าไปในรอบลึกๆ