ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และถึงเวลาที่เราจะไปรู้จักกับทุกทีมในฟุตบอลโลก รอบนี้ถึงคราวกลุ่มสุดท้าย อย่างกลุ่มเอช ที่มีโปรตุเกสมาพร้อมกับโอกาสลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา ทั้ง เกาหลีใต้, กาน่า และอุรุกวัย แชมป์โลกทีมเดียวของกลุ่มนี้
โปรตุเกส : นักเตะเทพ แต่โค้ชไหวไหม ?
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติโปรตุเกสอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาแล้วในช่วงไม่กี่ปีหลัง กับการหักด่านเข้าไปคว้าแชมป์ยูโร 2016 พวกเขาคว้าแชมป์ในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ได้สำเร็จสักทีหลังมีดาวดังมากหน้าหลายตาแต่ก็ไม่เคยไปถึงตรงนั้นได้เลย ตามด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่าเนชันส์ลีกเมื่อปี 2019 มาเพิ่มทำให้พวกเขาดูเป็นทีมที่ดูน่ากลัวขึ้นมามากกว่าเก่า
นี่อาจเป็นอีกครั้งที่เราบอกได้เลยว่าทีมชาติโปรตุเกสกำลังอยู่ในยุคทอง พวกเขามีนักเตะระดับท็อปเต็มไปหมด ดูอย่างตอนที่เข้าแข่งขันทัวร์นาเมนต์ยูโร 2020 พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมเต็งที่จะสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ แต่แล้วก็ทำได้อย่างน่าผิดหวังซึ่งดูเหมือนว่าความผิดพลาดจะอยู่ชายที่ชื่อว่า แฟร์นานโด ซานโตส
ซานโตสคือผู้จัดการทีมคนเดียวกันกับที่พาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโรนั่นแหละ แต่ว่าเขาขาดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนา ยังยึดอยู่กับวิธีการเดิมๆที่อาจเคยสำเร็จมาแล้ว แม้นักเตะภายในทีมจะมีผู้เล่นดีๆมากขึ้นกว่าชุดที่ได้แชมป์ แต่วิธีการไม่เคยไปไหน พวกเขายังคงเป็นทีมที่น่าเบื่อ เล่นเพื่อเอาผลเป็นหลักเช่นเคย นั่นทำให้เข้าสู่ทางตันได้ง่ายๆ
และแน่นอนว่าในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก พวกเขาก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังด้วยการเข้ามาเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม พ่ายแพ้ทีมชาติเซอร์เบีย โชคดีที่พวกเขาผ่านรอบเพลย์ออฟมาได้ แต่สำหรับฟุตบอลโลกแล้ว คงไม่มีเรื่องของโชคมาช่วยพวกเขาได้บ่อยๆ แม้จะยังมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้อยู่ในทีมก็ตาม
ผลงานโดดเด่นในอดีต
ผลงานที่ดีที่สุดของทีมชาติโปรตุเกสในฟุตบอลโลกคือการคว้าอันดับที่ 3 ในปี 1966 ในตอนที่พวกเขามียูเซบิโอ้นำทัพ จากนั้นก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้นอีกเลย ใกล้เคียงสุดคงเป็นฟุตบอลโลกปี 2006 ที่พวกเขาคว้าอันดับที่ 4 มาครอง
ส่วนในการแข่งขันอื่นๆพวกเขาก็มีแชมป์ติดมือ อย่างในยูโรพวกเขาคว้าแชมป์ได้ 1 สมัยในปี 2016 และแชมป์ยูฟ่าเนชั่นส์ลีกอีก 1 สมัย ในปี 2019
นักเตะดาวเด่น : คริสเตียโน่ โรนัลโด้
เขากำลังอยู่ในฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงยังต้องยอมรับว่าจะต้องอยู่ในฐานะผู้เล่นตัวสำรองของปีศาจแดง นั่นไม่เคยเกิดขึ้นกับชายคนนี้มาก่อน แถมเพิ่งแตกหักกับทีมอีกต่างหาก
แน่นอนว่าหลายคนอาจไม่ได้สนใจว่าโรนัลโด้จะทำอะไรในฟุตบอลโลกหนนี้ เพราะมันไม่มีแววเลยที่ทีมของเขาจะไปได้ไกล แต่เมื่อเป็นโรนัลโด้ในทีมชาติโปรตุเกสเราอาจบอกได้ว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน เขาอาจงัดฟอร์มที่ดีสุดๆลงเล่นในการแข่งขันครั้งนี้มันก็เป็นไปได้
----------
กาน่า : นักสู้จากกาฬทวีป
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติกาน่าเริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งในฟุตบอลทวีปแอฟริกา โดยในการเข้าแข่งขันฟุตบอลแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2 ครั้งแรกพวกเขาก็สามารถคว้าแชมป์ได้ในทันที ในปี 1963 และ 1965 ก่อนที่ในอีก 2 ครั้งถัดมาพวกเขาจะจบลงในฐานะรองแชมป์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมของพวกเขาเลยทีเดียว ก่อนที่จะมาคว้าแชมป์ได้อีกในปี 1978 และ 1982
จากนั้นเนิ่นนาน กาน่าไม่ได้โชว์ผลงานระดับท็อปอีกเลย พวกเขาไม่เคยเป็นแบบที่ยุคแรกเป็น ฟุตบอลโลกก็ไม่เคยได้เข้าแข่งขัน พวกเขารอมานานจะโอกาสแรกคือฟุตบอลโลกปี 2006 ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีขนาดว่าไปได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ก่อนจะสร้างผลงานที่น่าจดจำในฟุตบอลโลก 2010 ที่พวกเขาตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา โดยหากจำกันได้นั่นคือหนึ่งในเกมที่ดราม่าที่สุดในฟุตบอลโลกปีนั้นที่พวกเขาถูกทีมชาติอุรุกวัยเขี่ยตกรอบ
ตอนนี้อาจบอกได้ว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่ง การอยู่ในฟีฟ่าแรงกิ้งอันดับที่ 61 นั้นบอกได้ดีว่าพวกเขาอยู่ตรงไหน หัวใจสำคัญของพวกเขาอยู่ที่แดนกลาง ซึ่งว่ากันว่าแข็งแกร่งมากๆที่อาจช่วยให้พวกเขาพอมีแต้มกลับบ้านไปในคราวนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
อดีตแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 4 สมัย ส่วนในฟุตบอลโลกพวกเขาเคยเข้าแข่งขัน 3 ครั้งคือในฟุตบอลโลก 2006 , 2010 และ 2014 โดยที่ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลโลก 2010
นักเตะเด่น : โธมัส ปาร์เตย์
กองกลางจากทีมจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกอย่างอาร์เซนอล ปาเตย์นำมาซึ่งความหวังของทีมชาติกาน่า โดยที่เขาเป็นผู้สร้างความสมดุลให้แดนกลางเป็นอย่างมากให้กับทีม บวกด้วยความมั่นใจที่ในตอนนี้เขาทำได้ดีกับต้นสังกัดแล้วมันอาจส่งผลต่อเนื่องให้มันออกมาดีกับทีมชาติด้วยเช่นเดียวกัน
-----
อุรุกวัย : การเปลี่ยนแปลงของจอมโหด
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้สำเร็จในปี 1930 ก่อนที่จะกลับมาคว้าอีกสมัยได้ในปี 1950 พวกเขาคือหนึ่งในชาติที่แข็งแกร่งมากๆเมื่อพูดถึงเรื่องฟุตบอลในทวีปอเมริกาใต้ และแน่นอนกับแชมป์โคปา อเมริกาของพวกเขาก็คว้าไปได้ถึง 15 สมัย มากที่สุดเท่ากับอาร์เจนติน่า นั่นทำให้เห็นว่าพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหนในโลกลูกหนัง
หากนับฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัยในยุคหลังเราคงนึกถึงผู้จัดการทีมของพวกเขาอย่างออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ กับการคุมทีมมากว่า 16 ปี พร้อมด้วยการคว้าแชมป์โคปา อเมริกาเมื่อปี 2011 ตอนนี้มันถึงเวลาเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว
ยุคใหม่ของทีมชาติอุรุกวัยนำโดยอดีตผู้จัดการทีมอินเตอร์ ไมอามี่อย่าง ดิเอโก้ อลอนโซ่ โดยเขาเริ่มงานนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 เป็นต้นมา โดยเขาจะเป็นผู้จัดการทีมที่มักเตรียมพร้อมเกมต่อเกม แต่ก็มักจะพยายามเล่นเกมรับเป็นหลักเพื่อที่จะสร้างจังหวะในเกมโต้กลับ
แน่นอนว่าผู้เล่นยุคใหม่ของพวกเขาดูจะเหมาะสมกับการเล่นโต้กลับมาก ไม่ว่าจะ ดาร์วิน นูเญซ หรือ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ที่ต่างก็มีความเร็ว ผสมด้วยความเก๋าของหลุยส์ ซัวเรซ และ เอดิสัน คาวานี่แล้วมันทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่มีความหลากหลายในการเล่นมากขึ้นไปอีก
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
พวกเขาคืออดีตแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยในปี 1930 และ 1950 โดยที่แชมป์โคปา อเมริกาพวกเขาเคยคว้าแชมป์ไปได้ทั้งหมด 15 สมัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน
นักเตะเด่น : เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้
กองกลางตัวเก่งของเรอัล มาดริดที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เขาเติบโตจากกองกลางสายพละกำลังทั่วไป วิ่งบดบี้คู่แข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เท่านั้น แต่ในตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาครบเครื่อง เขายังเป็นผู้เล่นสายละกำลังเช่นเดิม แต่ในเกมรับเขาสุดยอด เช่นกันกับเกมรุกที่ในตอนนี้กลายเป็นกองกลางจอมทำประตูไปแล้ว นั่นทำให้เขาอันตรายมากๆ และกลายเป็นหนึ่งคนที่น่าจับตามองสุดๆในฟุตบอลโลกครั้งนี้
----
เกาหลีใต้ : นักรบเอเชียตะวันออก
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ส่วนใหญ่แล้วในฟุตบอลโลก ทีมชาติเกาหลีใต้มักจบที่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น โดยที่ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาในฟุตบอลโลกคือการคว้าอันดับที่ 4 ในปี 2002 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ โดยจนถึงตอนนี้ ทีมชาติเกาหลีใต้ได้แข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาเป็นสมัยที่ 10 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดหากไม่นับทีมจากทวีปยุโรป และ อเมริกาใต้
เส้นทางรอบคัดเลือกของพวกเขาก็ไม่ยากนัก เมื่อสามารถเก็บได้ 16 แต้มจาก 6 เกม ชนะ 5 เสมอ 1 ยิงไป 22 ประตูเลยทีเดียว อาจจะแอบเสียวหน่อยในการคัดเลือกรอบที่ 3 เพราะพวกเขาจบเป็นรองแชมป์กลุ่มรองจากทีมชาติอิหร่าน แต่ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมายเพราะที่ 2 ของกลุ่มก็ยังได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในทันที
ในตอนนี้ก็ต้องบอกว่าพัฒนาการของทีมชาติเกาหลีใต้กำลังเติบโตอย่างน่าสนใจ โดยที่หลายคนอาจจะจดจำเพียงซน ฮึง มินจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์เท่านั้น แต่ภายในทีมตอนนี้ยังเต็มไปด้วยนักเตะที่เล่นในยุโรป ทั้ง คิม มิน แจที่เป็นกองหลังตัวหลักของนาโปลี , ฮวัง ฮี ชาน จากวูล์ฟ และ อี คัง อินที่ในตอนนี้อยู่กับเรอัล มายอร์ก้า
แม้ความหวังหลักของพวกเขาจะอยู่ที่ ซน ซึ่งเป็นกัปตันทีม แต่อย่างไรก็ตามเชื่อเลยว่าทีมที่กำลังเติบโตขึ้นในตอนนี้ดีพอที่จะช่วยกันพัฒนาเพื่อเป้าหมายที่สูงกว่าเดิมได้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่นในอดีต
สำหรับในฟุตบอลโลกแล้วหลายคนคงจะจดจำได้ดีกับฟุตบอลโลกปี 2002 ที่พวกเขาเคยคว้าอันดับที่ 4 มาครองได้ในปีที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ
นักเตะเด่น : ซน ฮึง มิน
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่พูดถึง ซน ฮึง มิน นักเตะแนวรุกจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ที่ในตอนนี้เราอาจพูดได้เต็มปากมากขึ้นว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะชาวเอเชียที่ดีที่สุดตลอดกาลในโลกฟุตบอล และเขาถือเป็นดาวเด่นของทีมชาติเกาหลีใต้
แน่นอนว่าฟอร์มของเขาจะเป็นส่วนสำคัญต่อผลงานของทีมชาติเกาหลีใต้แน่นอน เขาถือเป็นแนวรุกที่รับมือได้ยากสุดๆหากมองในมุมของผู้เล่นเกมรับ รูปร่างดี มีความเร็ว และพร้อมเล่นงานได้ตลอดเวลา นั่นทำให้เขาน่ากลัวสุดๆ