ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และถึงเวลาที่เราจะไปรู้จักกับทุกทีมในฟุตบอลโลก รอบนี้ถึงทีของกลุ่มบี ของทีมขวัญใจมหาชนชาวไทย อย่าง ทีมชาติอังกฤษ กับชุดที่แข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในตัวเต็งคว้าแชมป์โลก แต่ต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับหนึ่งในคู่ปรับตลอดกาลแบบ เวลส์ รวมถึงยังมีสหรัฐอเมริกาที่หวังเป้าหมายมาก ๆ กับฟุตบอลโลกครั้งนี้ รวมถึงอิหร่าน ชาติคู่ปรับในเวทีการเมืองของสหรัฐฯ ที่พร้อมทำให้การแข่งขันครั้งนี้ ร้อนระอุยิ่งกว่าเดิม
อังกฤษ : อีกก้าวสู่ Football's Coming Home
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ชาติที่เชื่อว่าเป็นต้นตำรับสำหรับการแข่งขันฟุตบอลในสมัยใหม่ แน่นอนว่าพวกเขาถือเป็นหนึ่งในทีมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลกร่วมกับทีมชาติสกอตแลนด์ ย้อนกลับไปในปี 1870 ที่ทั้ง 2 ทีมได้มีการแข่งขันกันนั่นเอง
โดยรากฐานฟุตบอลที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันถือว่าได้อิทธิพลจากอังกฤษในส่วนมาก เนื่องจากพวกเขาได้มีการจัดแจงรูปแบบอย่างเป็นระเบียบมาตั้งแต่ต้น ทำให้เหมือนกลายเป็นพิมพ์เขียวของฟุตบอลในช่วงเวลานั้น และถูกนำมาต่อยอดให้กลายเป็นศาสตร์ต่างๆต่อไป
ทีมชาติอังกฤษมักถูกมองว่าเป็นทีมเต็งอยู่เสมอในการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ๆ ครั้งล่าสุดที่พวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกต้องย้อนไปไกลถึงในปี 1966 เลยทีเดียว ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพในฟุตบอลโลกครั้งนั้น ซึ่งนั่นเป็นครั้งเดียวที่พวกเขาทำได้อีกด้วย
โดยที่หากมองย้อนกลับไปไม่นานมานี้ในช่วง 2 ทศวรรษหลังสุดส่วนมากจะเจอแต่ความล้มเหลว จนกระทั่วเข้าสู่ยุคของแกเร็ธ เซาธ์เกต แน่นอนว่าผู้จัดการทีมรายนี้อาจถูกวิจารณ์มากมายแต่ถือว่าทำผลงานได้ดีเสมอ ไม่ว่าจะในฟุตบอลโลกหรือในยูโรก็ตาม นั่นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแฟนทีมชาติอังกฤษที่อาจจะได้ร้องเพลง Football's Coming Home อีกสักรอบในฟุตบอลโลกคราวนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่นในอดีต
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกแล้วทีมชาติอังกฤษเคยคว้าแชมป์โลก 1 สมัยในปี 1966 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ และได้ที่ 4 อีก 2 ครั้งคือในฟุตบอลโลก 1990 และ 2018
ส่วนในยูโรพวกเขาพึ่งคว้ารองแชมป์มาในยูโร 2020 ในที่จัดขึ้นในปี 2021 ซึ่งพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติอิตาลี หากผลงานของเซาธ์เกตพัฒนาขึ้นในฟุตบอลโลกหนนี้ กสนมองถึงแชมป์โลกนั้นก็ถือว่ามีความเป็นไปได้เหมือนกัน
นักเตะเด่น : แฮร์รี่ เคน
ดาวยิงสูงสุดของทีมชาติอังกฤษ และถือเป็นตัวความหวังหลักของชาติ นี่ถือเป็นนักเตะในแนวรุกที่ยังคงโชว์ฟอร์มอย่างต่อเนื่องในระดับสโมสร พิสูจน์มาแล้วกับรางวัลดาวซันโวพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015–16, 2016–17 และ 2020–21 ถือเป็นตัวหลักของทีมใหญ่อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และทีมชาติอังกฤษ แน่นอนว่ากองหน้ารายนี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์อีกสมัย
----------
อิหร่าน : ประสบการณ์จะช่วยสร้างนักรบแห่งเปอร์เซีย
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ฟุตบอลในประเทศอิหร่านนั้นมีมาอย่างยาวนาน พวกเขาก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลอิหร่านตั้งแต่ปี 1920 และได้ทำการต่อยอดเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลมานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
สำหรับฟุตบอลโลกแล้วพวกเขาลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่อปี 1978 ซึ่งก็ได้ลงเล่นมารวมครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 6 โดยสามารถเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในตอนนี้พวกเขาก็ถือว่ายอดเยี่ยมโดยที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งอยู่สูงติดอันดับที่ 21 เลยทีเดียวถือเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาชาติเอเชีย โดยที่ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกพวกเขาก็จบอันดับได้เหนือกว่าทีมชาติเกาหลีใต้ และ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆสำหรับพวกเขาในการแข่งขันทีมชาติ การลงแข่งฟุตบอลโลก 3 สมัยติดต่อกันนั้นช่วยให้พวกเขามีประสบการณ์มากขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในกลุ่มที่แข็งแกร่งสักหน่อย แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจใช้ประสบการณ์ตรงนี้ในการพิสูจน์ตัวเอง
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
สำหรับแชมป์ระดับทวีป ทีมชาติอิหร่านเคยคว้าแชมป์เอเชียนคัพได้ถึง 3 สมัย คือในปี 1968, 1972 และ 1976 พวกเขาอาจจะไร้แชมป์มายาวนาน
แต่สำหรับฟุตบอลโลกแล้วพวกเขาได้เข้าร่วมมาทั้งในปี 1978,1998,2006,2014,2018 และ 2022 เป้าหมายต่อไปของพวกเขาคงเป็นการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลกให้ได้ เพราะตั้งแต่แข่งในรอบสุดท้ายมาพวกเขายังไม่เคยทำได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
นักเตะเด่น : เมห์ดี้ ตาเรมี่
กองหน้าจากปอร์โต้ ที่โลดแล่นในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปมาหลายต่อหลายปี ในวัย 30 ปีเขาถือว่าเป็นกองหน้าที่มีประสบการณ์มากๆ พร้อมทั้งกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีในการพาปอร์โต้ลุ้นแชมป์ลีกโปรตุเกส เป็นไปได้ว่าเขาจะสามารถสานต่อฟอร์มการเล่นตรงนี้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกคราวนี้ได้
-----
สหรัฐอเมริกา : ความหวังที่ริบหรี่จากกัปตันอเมริกา
ปูมหลังด้านฟุตบอล
สำหรับทีมชาติสหรัฐอเมริกาแล้วก็ถือเป็นอีกหนึ่งทีมชาติที่มีความเก่าแก่มากๆในการแข่งขันฟุตบอล โดยพวกเขามีการก่อตั้งทีมชุดแรกในปี 1885 โดยที่พวกเขามีการจัดแข่งขันนัดแรกกับทีมชาติแคนาดา ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับชาติที่จัดนอกสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
โดยทีมชาติสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นหนึ่งใน 13 ชาติที่เข้าร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1930 ซึ่งพวกเขาก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ โดยสามารถจบเป็นอันดับที่ 3 ได้ในครั้งนั้นที่ประเทศอุรุกวัยและนั่นยังถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจนถึงทุกวันนี้
ส่วนการแข่งขันระดับทวีปในคอนคาแคฟโกลด์คัพ พวกเขามีช่วงเวลาใหญ่ๆที่เป็นแค่ ทีมรองจากทีมชาติเม็กซิโก แต่ก็กลับมาดีขึ้นได้ในยุคหลัง และคว้าแชมป์รายการนี้ได้ถึง 7 สมัยเลยทีเดียว
แน่นอนว่าทีมชาติสหรัฐอเมริกาก็หวังว่าพวกเขาจะสามารถโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในฟุตบอลโลกหนนี้ที่กาตาร์ ก่อนที่จะนำไปต่อยอดสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2026 ที่พวกเขาได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศแคนาดา และ ประเทศเม็กซิโก
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
ในระดับทวีปพวกเขาคว้าแชมป์ คอนคาแคฟโกลด์คัพ ได้ทั้งหมด 7 สมัยคือในปี 1991, 2002, 2005, 2007, 2013, 2017 และ 2021 ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีมากๆ
ส่วนในฟุตบอลโลกผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ที่พวกเขาไปได้ไกลถึงการเป็นอันดับที่ 3 เลยทีเดียว โดยที่ส่วนใหญ่แล้วในฟุตบอลโลกทีมชาติสหรัฐอเมริกาจะสามารถเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้เสมอ
นักเตะเด่น : คริสเตียน พูลิซิช
เขาอาจไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดกับสโมสรเชลซี แต่สำหรับแนวรุกทีมชาติสหรัฐอเมริกาแล้วเขาถือว่าเป็นตัวหลักของทีม กับการวิ่งลงมาช่วยในเกมรับ หรือการสร้างสรรค์เกมรุก เขาถือเป็นนักเตะตัวความหวังที่แฟนฟุตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกาฝากความหวังเอาไว้ มันมากเกินไปหรือเปล่าและเขาจะแบกไหวไหมก็ต้องรอตัดสินกันในการแข่งขันที่กาตาร์อีกที
----
เวลส์ : มังกรแดง แรงอีกสักหน
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ถือเป็นอีกทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน พวกเขาถือเป็นทีมชาติที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับที่ 3 รองจากทีมชาติอังกฤษ และสกอตแลนด์เลยทีเดียว แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะกลายเป็นชาติมหาอำนาจของโลกลูกหนัง เพราะจากนั้นพวกเขาก็แทบจะไม่ได้แสดงให้เห็นในเวทีโลกเลยถึงความเก่งกาจของพวกเขา
พวกเขาเคยเข้าร่วมฟุตบอลโลกเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือในฟุตบอลโลกปี 1958 ที่ประเทศสวีเดน พวกเขาถือว่าก็ทำได้ดีเยี่ยม ซึ่งว่ากันว่านั่นคือยุคทองที่ทีมชาติเวลส์มีนักเตะดีๆเต็มไปหมด ก่อนจบฟุตบอลโลกหนนั้นด้วยการตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย นั่นคือผลงานเดียวที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกสำหรับทีมชาติเวลส์
ส่วนในยุคหลังก็ถือว่าเริ่มกลับมามีชื่อมากขึ้นแล้ว พวกเขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของยูโร 2016 นั่นน่าจะใกล้เคียงกับการเป็นแชมป์มากที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้แล้ว หรืออย่างยูโร 2020 พวกเขาก็เข้าได้ถึงรอง 16 ทีมสุดท้ายเช่นกัน
ในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ถือเป็นการไปแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี น่าติดตามว่าพวกเขาจะสามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้อีกครั้งหรือไม่
ผลงานเด่นระดับนานาชาติ
พวกเขาคือนึ่งในหลายๆชาติที่ไม่เคยคว้าแชมป์ระดับชาติเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศของฟุตบอลยูโรเมื่อปี 2016 ส่วนผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกคือปี 1958 ที่ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย
นักเตะที่โดดเด่น : แกเรธ เบล
นักเตะที่เป็นเหมือนกับหัวใจของทีมชาติเวลส์ หากมองไปแล้วเขาเองก็ไม่ได้มีความหลงไหลในฟุตบอลเท่าเมื่อหลายปีก่อนแล้ว แต่หากจะให้เข้าทำเต็มที่เพื่อฟุตบอลมันคงเป็นกับทีมชาติเวลส์นั่นแหละ การที่ย้ายไปอยู่กับแอลเอเอฟซี เป็นการหาทางพักผ่อนเพื่อให้เมื่อถึงฟุตบอลโลกสามารถฟิตเต็มถัง และทุกครั้งเขามักจะทำได้ดีเสมอเมื่อถึงทัวร์นาเมนต์ใหญ่กับทีมชาติเวลส์