ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และถึงเวลาที่เราจะไปรู้จักกับทุกทีมในฟุตบอลโลก รอบนี้ถึงทีของกลุ่มดี ของทีมแชมป์เก่าอย่างฝรั่งเศสที่ต้องล้างอาถรรพ์แชมป์เก่าตกรอบแรกให้ได้ กับเพื่อนร่วมกลุ่ม อย่าง ออสเตรเลีย, เดนมาร์ก และตูนีเซีย
ฝรั่งเศส : ปรับตัวเพื่อป้องกันแชมป์โลกให้ได้
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติฝรั่งเศสถูกสร้างในปี 1904 ใกล้ๆกับการก่อตั้งขอฟีฟ่า โดยการแข่งขันทีมชาตินัดแรกของพวกเขาคือการเสมอกับทีมชาติเบลเยี่ยมในช่วงปีเดียวกัน
ผลงานประวัติศาสตร์ของพวกเขาในฟุตบอลโลกที่ถือเป็นตำนานที่ถูกพูดถึงคงหนีไม่พ้นในปี 1958 นั่นถือเป็นผลงานที่ดีทีสุดของพวกเขาก่อนที่จะคว้าแชมป์โลกได้ ต้องขอบคุณ 13 ประตูในตำนานจาก จุสต์ ฟองแตงที่ได้ฝากเอาไว้ในครั้งนั้น ก่อนที่จะห่างหายไปไปนานสำหรับการทำผลงานระดับท็อปในฟุตบอลโลกสำหรับทีมชาติฝรั่งเศส
หากนับในช่วงราวๆ 30 ปีหลัง ทีมชาติฝรั่งเศสก็ถือว่าสามารถสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นทีมชาติแถวหน้าของโลกได้สำเร็จ พวกเขาจากเดิมที่จะทำได้ดีในบางครั้ง และบางครั้งก็ทำผลงานออกมาแย่มาก แต่สุดท้ายก็ผลักดันจนไปไกลถึงการคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
พวกเขาคว้าแชมป์แรกในปี 1984 จากการแข่งขันยูโร ก่อนที่จะห่างหายไปนาน ไม่ได้ถูกต่อยอดจากการคว้าแชมป์ครั้งนั้น ก่อนที่จะมาถึงยุคทองที่พวกเขาคว้าได้ทั้งฟุตบอลโลก 1998 และ ยูโร 2000 ในทีมที่เต็มไปด้วยดาวดังแห่งยุค
โดยที่ทีมชาติฝรั่งเศสมักเต็มไปด้วยนักเตะดาวดังเสมอ และมีทีมที่ดีเสมอมา จนกระทั่งคว้าแชมป์โลกได้อีกครั้งในปี 2018 พวกเขาแข่งขันในฐานะหนึ่งในตัวเต็งและสามารถทำได้ ในปี 2022 พวกเขาตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ปี 1962 ที่สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
แน่นอนว่าดูเหมือนจะเป็นงานหนักของดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ โชคดีที่พวกเขาเต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์เต็มไปหมด ไม่ว่าจะรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ แม้ในคราวนี้จะขาดห้องเครื่องสำคัญอย่างปอล ป็อกบา และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่เดส์ชองส์ก็ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้แล้ว ถือเป็นการปรับตัวเพื่อแก้ไขสถานการณ์กันไป และดูเหมือนว่าจากผู้เล่นที่ติดทีมชาติไปในคราวนี้ หากพวกเขาจะสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่แปลกนัก
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
ฝรั่งเศสเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัยคือในปี 1998 และปี 2018 โดยที่เคยเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกมาด้วยในปี 2006 พวกเขาถือเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งมากๆเมื่อพูดถึงฟุตบอลโลก
ส่วนแชมป์อื่นๆ พวกเขาเคยคว้าแชมป์ยูโรได้ 2 สมัยคือในปี 1984 และ 2000 รวมถึงแชมป์ใหม่อย่างยูฟ่าเนชันส์ลีกในปี 2021 ที่ผ่านมาด้วย
นักเตะเด่น : คาริม เบนเซม่า
การกลับมาเล่นในฟุตบอลโลกอีกครั้งของเบนเซม่าหลังจากที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในทีมชุดแชมป์เมื่อคราวก่อน ในตอนนี้มันต่างออกไป จากปี 2014 เขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก แต่ในตอนนี้เขาคือนักเตะที่คว้าบัลลงดอร์มาครองได้สำเร็จ
โดยเบนเซม่าถือเป็นส่วนสำคัญในการพาเรอัล มาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกมาครองได้ แน่นอนว่ามันคงเป็นหนึ่งเป้าหมายของเขาที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติฝรั่งเศสป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
----------
ออสเตรเลีย : จิงโจ้แดง แบบอย่างจากลิเวอร์พูล
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติออสเตรเลียชุดแรกก่อตั้งในปี 1922 เพื่อเป็นการทัวร์กับประเทศนิวซีแลนด์ โดยนับตั้งแต่นั้นประเทศ ออสเตรเลีย , นิวซีแลนด์ และ แอฟริกาใต้ก็จะมีการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์มาเจอกันอยู่บ่อยๆ
ฟุตบอลโลกครั้งแรกของพวกเขาคือฟุตบอลโลกปี 1974 ที่จัดในประเทศเยอรมันตะวันตก โดยพวกเขากลับบ้านไวหลังจากที่ตกรอบแบ่งกลุ่มครั้งนั้น และต้องรออีก 32 ปีกว่าจะได้เตะฟุตบอลโลกอีกครั้ง
สำหรับผลงานในฟุตบอลโลกแล้วในตอนนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกเขาเมื่อสามารถที่จะได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกมาแล้ว 5 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2006,2010,2014,2018 และ 2022 โดยผลงานที่ดีที่สุดคือฟุตบอลโลกปี 2006 ที่พวกเขาผ่านเข้าไปรอบ 16 ทีมสุดท้าย
แน่นอนว่าคงเป็นอีกครั้งที่พวกเขาอยากจะทำผลงานด้วยการผ่านเข้ารอบไปให้ได้ ผู้จัดการทีมอย่างเกรแฮม อาโนลด์ บอกเลยว่าพวกเขาต้องการเล่นในรูปแบบที่ลิเวอร์พูลเป็นในตอนนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
ผลงานที่ดีที่สุดคือในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006 ที่พวกเขาไปได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนในระดับทวีปพวกเขาเคยคว้าแชมป์เอเชี่ยนคัพมาแล้วในปี 2015
นักเตะเด่น : อัจดิน ฮรูสติช
อัจดิน ฮรูสติช นักเตะกองกลางไดนาโมที่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้เล่นให้กับลีกใหญ่ของยุโรป ด้วยผลงานก่อนหน้ากับ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต และในตอนนี้กับเฮลลาส เวโรนาในเซเรีย อา เขาเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการช่วยเกมรุก โดยเฉพาะการครอบครองบอลเอาไว้ ซึ่งนั่นช่วยให้ทีมทำได้ดี
-----
เดนมาร์ก : เทพนิยายในฟุตบอลโลก ?
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติเดนมาร์กกลายเป็นที่จดจำมากที่สุดครั้งหนึ่งคงเป็นในช่วงยุคทศวรรษที่ 80 เป็นต้นมา เมื่อพวกเขามีฉายาว่า เดนิช ไดนาไมต์ ทีมชาติเดนมาร์กสร้างเรื่องราวน่าเหลือเชื่อขึ้นกับผลงานของพวกเขาในฟุตบอลยูโรปี 1992 หลังจากที่พวกเขาสามารถเอาชนะทีมชาติเยอรมันได้ในนัดชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 2-0 และคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ นั่นถูกจดจำในฐานะ เทพนิยายเดนส์ โดยที่หลังจากนั้นทีมชาติเดนมาร์กก็วนเวียนทำผลงานได้เรื่อยๆในการแข่งขันระดับชาติไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก หรือ ยูโร
ในยุคปัจจุบัน แคสเปอร์ ยูลมันด์ ยังคงทำทีมชาติเดนมาร์กได้อย่างยอดเยี่ยมหลังฝากผลงานเอาไว้ในรายการยูโร 2020 ที่พวกเขาไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศเลยทีเดียว แน่นอนว่าพวกเขาหวังที่จะต่อยอดจากทีมชุดนั้น เพื่อได้โชว์ผลงานที่โดดเด่นอีกครั้งในฟุตบอลโลกที่กาตาร์
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
โดดเด่นที่สุดสำหรับพวกเขาคงหนีไม่พ้นแชมป์ยูโรในปี 1992 ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะสามารถผ่านด้านทีมสุดแกร่งเข้าไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
ส่วนในฟุตบอลโลกก็ต้องบอกว่าพวกเขาทำไม่ได้ดีมากนัก ผลงานที่ดีที่สุดคือการเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเกิดขึ้น 3 ครั้งในปี 1986 , 2002 และ 2018
นักเตะเด่น : คริสเตียน อีริคเซ่น
นักเตะผู้โชคร้ายในฟุตบอลยูโร 2020 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะพยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองได้กลับมาแข่งขันฟุตบอลได้อีกครั้ง เจ้าตัวทำได้และได้ย้ายไปอยู่สโมสรใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับฟอร์มการเล่นที่มีมาตรฐาน
ย้อนไปจากวันที่เขาเจออุบัติเหตุในเกมกับทีมชาติฟินแลนด์ จนถึงตอนนี้เขากลับมาอยู่ในฐานะยอดนักเตะอีกคนหนึ่งแล้วในโลกฟุตบอล และเขาคงหวังจะพาทีมชาติเดนมาร์กไปได้ไกลในฟุตบอลโลกคราวนี้
----
ตูนิเซีย : เกมรับคือหนทางสู่ชัยชนะ
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ด้วยความที่พวกเขาเป็นเมืองขึ้นของประเทศฝรั่งเศสทำให้ในฟุตบอลโลกครั้งแรกๆนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีส่วนร่วมไปด้วย แต่ในระหว่างนั้นพวกเขาก็ได้มีทีมชาติแบบไม่เป็นทางการขึ้นในช่วงปี 1928 เป็นต้นมา จนกระทั่งเป็นอิสระจากฝรั่งเศสในวันที่ 20 มีนาคม 1956
พวกเขาเคยมียุคทองในช่วงทศวรรษที่ 60 ถึง 70 นั่นส่งผลให้พวกเขาได้ไปแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในปี 1978 นั่นถือเป็นความสำเร็จของพวกเขาที่ทำได้ แม้ว่าจะตกรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม
ตูนิเซียได้กลับมาแข่งขันในฟุตบอลโลกอีกหลายสมัย ทั้งในปี 1998,2002,2006 และ 2018 แต่พวกเขาก็ไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ในคราวนี้พวกเขาที่มีสไตล์การเล่นเกมรับ พร้อมเจอกับความกดดัน ก็หวังว่าวิธีการของพวกเขาจะสามารถพาไปได้ไกล
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่นในอดีต
พวกเขาเคยคว้าแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์คัพ 1 สมัยในปี 2004 โดยที่เคยเป็นรองแชมป์ในปี 1965 และ 1996 ส่วนฟุตบอลโลกพวกเขาเคยเข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายมาทั้งหมด 5 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่ไม่เคยผ่านออกจากรอบแบ่งกลุ่มเลยแม้แต่ครั้งเดียว
นักเตะเด่น : วาห์บี คาซรี่
น่าเสียดายที่ในคราวก่อนเขาพลาดในการลงเล่นฟุตบอลโลก 2018 เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แน่นอนว่าการเล่นของคาซรี่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ตูนิเซียสามารถแข็งแกร่งได้ที่กาตาร์ เขาเป็นตัวอันตรายต่อกองหลังคู่แข่งแน่นอน ด้วยความหลากหลายในการเล่นของเขา