ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และถึงเวลาที่เราจะไปรู้จักกับทุกทีมในฟุตบอลโลก รอบนี้ถึงทีของกลุ่มซี กับตัวชูโรง อย่าง ทีมชาติอาร์เจนตินา กับโอกาสลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลกอีกครั้ง ของ ลีโอเนล เมสซี่
นอกจากนี้ ยังมี ซาอุดิอาระเบีย ทีมแกร่งจากเอเชีย, เม็กซิโก ยอดทีมที่หวังลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์แบบสบาย ๆ และโปแลนด์ที่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กับฟุตบอลโลก(น่าจะ)ครั้งสุดท้ายของเขา
อาร์เจนติน่า : โอกาสสุดท้ายในทัพฟ้าขาวของเมสซี่
ปูมหลังด้านฟุตบอล
แมตช์แรกที่ทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ถูกบันทึกว่ามีการแข่งขัน คือการเจอกับทีมชาติอุรุกวัยในปี 1902 ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับชาติของทั้งคู่เป็นครั้งแรก โดยจบลงที่อาร์เจนติน่าชนะด้วยสกอร์ 6-0 ซึ่งในช่วง 5 ปีแรกทีมชาติอาร์เจนติน่าจะเล่นในเกมกระชับมิตรกับทีมจากทวีปอเมริกาใต้เท่านั้น เหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะในช่วงเวลานั้นจะต้องใช้เวลานานมากในการเดินทางและมีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มาขั้น
อาร์เจนติน่าลงแข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 โดยที่พวกเขาแพ้ให้กับทีมชาติอุรุกวัยชาติเจ้าภาพในนัดชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 4-2 ก่อนที่จะมาคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จในฟุตบอลโลก 1978 และ 1986
โดยครั้งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากคือทีมชาติอาร์เจนติน่าที่นำโดยสุดยอดนักเตะอย่าง ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่เป็นส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ในปี 1986 และ ตามด้วยรองแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1990 จนถูกกล่าวขานว่าเขาคืออีกหนึ่งในสุดยอดนักเตะตลอดกาลของโลก
แน่นอนว่าอาร์เจนติน่าในยุคนี้นำโดยหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่างลิโอเนล เมสซี่ หลังความผิดหวังในฟุตบอลโลก 2014 ที่พวกเขาพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ มีช่วงเวลาหนึ่งที่แฟนฟุตบอลหลายต่อหลายคนมองว่าเมสซี่คงไม่สามารถที่จะคว้าแชมป์ในทีมชาติได้แน่ในชีวิตนี้ เพราะหลังจากนั้นก็เป็นรองแชมป์โคปา อเมริกาติดๆกันถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว
ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ถือเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่เขาจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก โดยอาร์เจนติน่ารวมใจกันจนคว้าแชมป์โคปา อเมริกาได้สำเร็จมาแล้วเมื่อปี 2021 การที่จะรวมใจกันอีกครั้งเพื่อช่วยให้เมสซี่ พิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่าเขาคือนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลโดยการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในคราวนี้คงไม่ยากเกินไป
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
พวกเขาถือว่าเป็นอีกหนึ่งชาติมหาอำนาจในทวีปอเมริกาใต้ กับการคว้าแชมป์โคปา อเมริกาได้มากถึง 15 สมัยด้วยกัน โดยที่พวกเขาคือทีมล่าสุดที่สามารถคว้าแชมป์นี้มาครองได้สำเร็จในปี 2021 ที่ผ่านมา
ส่วนผลงานในฟุตบอลโลกอาร์เจนติน่าก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นอดีตแชมป์โลก 2 สมัยในปี 1978 และ 1986 รวมถึงเป็นรองแชมป์ได้ถึง 3 ครั้งในปี 1930, 1990 และ 2014
นักเตะเด่น : ลิโอเนล เมสซี่
หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกฟุตบอล การที่เขาคว้าแชมป์มากมายกับบาร์เซโลน่านั้นทำให้หลายคนได้เห็นไปแล้วตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรปัจจุบันของเขา
โดยที่เมสซี่ผ่อนคลายมากขึ้นในการเล่นกับทีมชาติ เขาสามารถโชว์ฟอร์มสุดยอดได้ในรายการโคปา อเมริกาจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
เมสซี่ถือเป็นนักเตะที่เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอาร์เจนติน่าด้วยผลงานที่เขายิงได้มากถึง 90 ประตู ด้วยความเชื่อมั่นของเขา และทีมร่วมกันนั้นอาจเป็นพลังที่มากพอที่จะผลักดันให้เมสซี่งัดฟอร์มสุดยอดจนสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกไปครองได้ในคราวนี้
----------
ซาอุดิอาระเบีย : สิงห์ทะเลทรายหวังผ่านเข้ารอบ
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ความต้องการที่จะมีการจัดให้มีฟุตบอลทีมชาติในซาอุดิอาระเบียเกิดขึ้นในปี 1951 โดยที่ทีมเอาตัวผู้เล่นจากสโมสร อัล-เวห์ด้า และ อัล อาห์ลี เพื่อแข่งขันในเกมกระชับมิตรกับทีมกระทรวงสาธารณสุขของอิยิปต์
ก่อนที่สหพันธ์ฟุตบอลของประเทศซาอุดิอาระเบียจะมีการก่อตั้งในปี 1956 โดยทัวร์นาเมนต์ระดับชาติแรกของทีมชาติซาอุดิอาระเบียคือแพนอาหรับเกมส์ ในปี 1957 ที่พวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มไป
สำหรับฟุตบอลโลก ซาอุดิอาระเบียเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในปี 1994 ซึ่งพวกเขาได้ผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลยทีเดียว และนั่นถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดแล้วในประวัติศาสตร์ เพราะหลังจากนั้นในฟุตบอลโลก 1998 , 2002 , 2006 และ 2018 พวกเขามักจะตกรอบแบ่งกลุ่มเสมอ
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
สำหรับระดับทวีปแล้วพวกเขาเคยคว้าแชมป์เอเชียนคัพในปี 1984,1988 และ 1996 ซึ่งก็ถือว่าห่างหายจากความสำเร็จมานานพอสมควร ส่วนในฟุตบอลโลกพวกเขาเคยไปได้ไกลที่สุดคือฟุตบอลโลก 1994 ที่ผ่านเข้าไปรอบ 16 ทีมสุดท้าย
นักเตะเด่น : ซาเลม อัล ดอว์ซารี่
ในทีมที่เต็มไปด้วยดาวดังภายในประเทศของพวกเขา ซาเลม อัล ดอว์ซารี่ ปีกตัวเก๋าโดดเด่นกว่าทุกๆคน เขาเคยมีโอกาสมาโชว์ฝีมือในยุโรปกับบียาร์เรอัลช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะอยู่กับสโมสร อัลฮิลาล มาแทบจะตลอดอาชีพการค้าแข้งเลยทีเดียว ซึ่งเขาถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2019 และ 2021
กับทีมชาติเขาทำได้ 16 ประตูจากตำแแหน่งตัวริมเส้นฝั่งซ้าย มีความเร็วและมีการสร้างเกมที่ดี แน่นอนว่าเขาจะเป็นคนสำคัญของทีมในฟุตบอลโลกคราวนี้เช่นเคย
-----
เม็กซิโก : ลุ้นเข้ารอบตามมาตรฐานจังโก้
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ในปี 1927 มีการก่อตั้งสมาคมฟุตบอลเม็กซิโกอย่างเป็นทางการ แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะเริ่มมีฟุตบอลแพร่หลายในประเทศนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 แล้วก็ตาม โดยที่ทัวร์นาเมนต์แรกของพวกเขาคือการเข้าแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกในช่วงซัมเมอร์ปีเดียวกัน ซึ่งก็ไม่น่าจดจำเท่าไรเพราะพวกเขาตกรอบหลังแพ้ให้กับทีมชาติสเปนไปด้วยสกอร์ 7-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ก่อนที่จะมีโอกาสได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ที่จัดในประเทศอุรุกวัย ซึ่งพวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มในฐานะบ๊วยของกลุ่มที่มีทีมชาติอาร์เจนติน่า , ชิลี และ ฝรั่งเศส โดยผลงานที่ดีที่สุดของทีมชาติเม็กซิโกในฟุตบอลโลกในปี 1970 และ 1986 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ
โดยปกติแล้วนักเตะจากเม็กซิโกจะมีนักเตะที่โดดเด่นขึ้นมาอยู่เสมอ นั้นมาจากความชื่นชอบพื้นฐานของคงในชาติที่มักจะชอบเตะฟุตบอลอยู่แล้ว ทำให้ก็จะมีนักเตะดาวดังหน้าใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ตลอด จนครั้งหนึ่งเราก็ได้เห็น ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ โดดเด่นขึ้นมา จนได้ฝากผลงานทำ 52 ประตูในทีมชาติ กลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
แม้ว่าในฟุตบอลโลก พวกเขาจะไม่สามารถไปได้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเลยก็ตาม แต่ในช่วงหลังพวกเขาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในทีมที่มีความสม่ำเสมอมากที่สุดในฟุตบอลโลก เพราะนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1994 เป็นต้นมา 7 ครั้งติดต่อกันแล้วที่พวกเขาสามารถผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าพอใจ
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
สำหรับในการแข่งขันระดับทวีปแล้วทีมชาติเม็กซิโกคว้าแชมป์คอนคาเคฟโกลด์คัพได้ถึง 11 สมัยเลยทีเดียว โดยยังเคยได้ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพในปี 1999 มาครองด้วยอีกสมัย
ส่วนผลงานในฟุตบอลโลกแล้ว แม้ว่าทีมชาติเม็กซิโกจะถูกพูดถึงบ่อยๆว่าเป็นทีมที่น่าสนใจแต่พวกเขาก็ไปได้ไกลที่สุดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้น 2 ครั้ง ในฟุตบอลโลก 1970 และ 1986 ซึ่งทั้ง 2 ครั้งพวกเขาลงแข่งขันในฐานะเจ้าภาพ
นักเตะเด่น : กิลเยร์โม่ โอชัว
เมื่อนึกถึงฟุตบอลโลก หลายคนจะนึกถึงผู้รักษาประตูชาวเม็กซิโกคนนี้ กิลเยร์โม่ โอชัว มักโชว์ฟอร์มเซฟระดับโลกอยู่เสมอในการแข่งขันฟุตบอลโลก เขากลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลก ณ ช่วงเวลาที่มีการแข่งขัน แม้ในระดับสโมสรเขาจะไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก แต่เมื่อนึกถึงทีมชาติเม็กซิโกในฟุตบอลโลก ชื่อของเขาจะถูกพูดถึงเป็นลำดับแรกๆ
----
โปแลนด์ : แดง , ขาว และยอดดาวยิง
ปูมหลังด้านฟุตบอล
สหพันธ์ฟุตบอลของโปแลนด์ก่อตั้งขึ้นในปี 1919 หลังจากฟุตบอลโลกครั้งที่ 1 จบลงไปแล้ว ซึ่งกว่าที่จะมีการแต่งตั้งผู้จัดการทีมในอีก 2 ปีหลังจากนั้น โดยเป็นผู้จัดการทีมชาวฮังการีที่ชื่อว่าอิมแร พอสซอนี ก่อนที่ทีมชาติโปแลนด์จะมีการต่อยอดในการแข่งขันทีมชาติหลังจากนั้น
ฟุตบอลโลกครั้งแรกของทีมชาติโปแลนด์เกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 1938 โดยที่พวกเขาก็ทำได้ดีในการที่เข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลยทีเดียวก่อนที่จะไปแพ้ให้กับทีมชาติบราซิลในครั้งนั้น
โปแลนด์ใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมาเตะฟุตบอลโลกได้ พวกเขาเว้นว่างจากการแข่งขันไปนานหลายปีเพราะไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกได้ แต่พอกลับมาก็สร้างสิ่งที่น่าจดจำเอาไว้ทันที กับฟุตบอลโลกปี 1974 เมื่อพวกเขาไปไกลถึงการเป็นอันดับที่ 3 ของทัวร์นาเมนต์ เช่นกันกับในฟุตบอลโลก 1982 พวกเขาก็ทำมันได้สำเร็จอีกครั้ง
พวกเขาถือว่าห่างหายจากการแข่งขันฟุตบอลโลกอยู่เรื่อยๆ จะสลับกัน เข้ารอบได้ แล้วก็หายไปอีกสักพักแล้วก็กลับมา ซึ่งในฟุตบอลโลก 3 ครั้งหลังสุดที่พวกเขาได้แข่งขันคือในปี 2002,2006 และ 2018 ซึ่งทำได้เพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่นในอดีต
ผลงานที่ดีที่สุดของทีมชาติโปแลนด์แล้วคงหนีไม่พ้นผลงานที่พวกเขาเคยคว้าอันดับที่ 3 ของฟุตบอลโลกถึง 2 ครั้งด้วยกัน ในฟุตบอลโลก 1974 และ 1982
นักเตะเด่น : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกชั่วโมงนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในระดับสโมสร และในทีมชาติ ตลอดช่วงหลายปีกับบาเยิร์น มิวนิคเขาทำให้เห็นว่าเขาคือหมายเลขหนึ่งเมื่อนึกถึงกองหน้าตัวเป้า ก่อนที่จะมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับบาร์เซโลน่า
หากจะมองหาตำนานเบอร์ 1 ตลอดกาลของทีมชาติโปแลนด์เราคงนึกถึงชื่อเขา เพราะจนถึงตอนนี้ เลวานดอฟสกี้ ควบสถิติทั้งติดทีมชาติมากที่สุดที่ 134 เกม และดาวยิงสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเขายิงได้มากที่สุดที่ 74 ประตูเลยทีเดียว แน่นอนว่าเขาคงหวังพาทีมชาติโปแลนด์ไปได้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในฟุตบอลโลกหนนี้