ฟุตบอลโลก 2022 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และถึงเวลาที่เราจะไปรู้จักกับทุกทีมในฟุตบอลโลก รอบนี้ถึงทีของกลุ่มจี ที่มีเต็งแชมป์หนึ่ง อย่าง บราซิล เจอกับสองทีมระดับกลางจากยุโรป อย่าง เซอร์เบีย และสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมทั้ง แคเมอรูน จากแอฟริกา
บราซิล : ถึงเวลาราชาของฟุตบอลโลกจะทวงบัลลังก์
ปูมหลังด้านฟุตบอล
เมื่อนึกถึงฟุตบอลโลก ชาติแรกที่เรานึกถึงคงเป็นทีมชาติบราซิลที่มักโชว์ลวดลายความโดดเด่นในการแข่งขันนี้เสมอ พวกเขาเต็มไปด้วยดาวดังและเล่นฟุตบอลอยากสนุกสนาน นั่นคือเสน่ห์ที่น่าหลงไหลสุดๆจากพวกเขา
ทีมชาติบราซิลกลายเป็นทีมระดับเต็งแชมป์มาตลอด เพราะผลงานของพวกเขานั้นชัดเจน แชมป์ฟุตบอลโลกที่ได้มาแล้วถึง 5 สมัยในปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002 ซึ่งไล่เรียงมากก็มีนักเตะดาวดังมากมายอยู่ในนั้นที่คอยช่วยให้พวกเขาได้ไปถึงฝั่งฝัน
แน่นอนว่าได้แชมป์มากถึง 5 สมัยนั่นแปลว่าพวกเขาคือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศสาตร์ฟุตบอลโลก รวมถึงมีผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกด้วยเช่นเดียวกัน
บราซิลไม่เคยต้องผ่านรอบเพลย์ออฟ รวมถึงยังเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกเดียวที่เคยได้จากต่างทวีป โดยพวกเขาเคยได้แชมป์ในยุโรปที่สวีเดน 1958 , ทวีปอเมริกาใต้ที่ชิลี 1962 , ทีมอเมริกาเหนือ 2 ครั้งคือในปี 1970 ที่เม็กซิโก และ 1994 ที่สหรัฐอเมริกา และที่เอเชียในปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
แน่นอนว่าในปี 2022 ทีมของติเต้อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสมสุดๆ พวกเขาอาจพลาดในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโคปาอเมริกาเมื่อปีก่อน แต่ก็กล้าพูดได้ว่าพวกเขานั้นดีพอสำหรับการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในคราวนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
นี่คือทีมชาติที่แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราพูดถึงการแข่งขันในฟุตบอลโลก พวกเขาคือชาติแรกและชาติเดียวในตอนนี้ที่สามารถคว้าถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกไปครองได้ถึง 5 สมัยเลยทีเดียว นั่นทำให้เห็นว่าพวกเขายอดเยี่ยมแค่ไหน
ผลงานของทีมชาติบราซิลมักเห็นได้ชัดเจน พวกเขาไปไกลอย่างน้อยๆก็รอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกมา 7 สมัยติดต่อกันแล้ว และดูจากฟอร์มของพวกเขาในตอนนี้การไปถึงรอบ 8 ทีมอีกก็คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฟุตบอลโลก 2022 หรืออาจมองถึงแชมป์สมัยที่ 6 เลยก็เป็นไปได้
นักเตะเด่น : เนย์มาร์
เมื่อพูดถึงนักเตะยอดเยี่ยมของทีมชาติบราซิลในยุคก่อน เราอาจพูดถึง เปเล่ , โรนัลโด้ หรือ โรนัลดินโญ่ แต่ในตอนนี้พวกเขามีเนย์มาร์ที่มีสถิติในการเล่นทีมชาติยอดเยี่ยมสุดๆ ที่กาตาร์เขาอาจทุบสถิติยิงประตูสูงสุดให้กับทีมชาติบราซิลของเปเล่ลงได้ หลังยิงไปแล้ว 75 ประตู โดยที่เหลืออีก 3 ประตูเท่านั้นเขาก็สามารถทุบสถิตินี้ได้แล้ว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงหากมันจะเกิดขึ้นในฟุตบอลโลก
เนย์มาร์ได้รับการเชื่อมั่นว่าจะสามารถพาทีมชาติบราซิลไปถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ตั้งแต่เขายังเป็นดาวรุ่ง เขาโดดเด่นเสมอ สกิลการเล่นที่สวยงาม หรือการเล่นที่ยอดเยี่ยมคือส่วนผสมที่ลงตัว
ดาวดังจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ฟอร์มตกไปในฤดูกาลก่อน แต่ตอนนี้เขาอยู่ในฟอร์มที่เรียกได้ว่าดีสุดๆ กลับมายอดเยี่ยมได้ทันเวลาก่อนที่จะแข่งขันในฟุตบอลโลก ซึ่งว่ากันว่าเขาจะลงเล่นเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจากสภาพร่างกาย เชื่อเลยว่าเนย์มาร์มีความมุ่งมั่นสูงมากเพื่อที่ว่าสุดท้ายเขาจะสามารถพาทีมชาติของเขาคว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ
----------
เซอร์เบีย : การสร้างยุคใหม่ที่แท้จริง
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ทีมชาติเซอร์เบีย แท้จริงแล้วเริ่มต้นจากประวัติศาสตร์พวกเขาจะถูกนับในฐานะยูโกสลาเวีย ซึ่งพวกเขาถือเป็นทีมที่ค่อยๆเติบโต ความทรงจำแรกของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์คือการตกรอบหลังพ่ายแพ้ให้กับเช็กโกสโลวาเกีย 7-0 ในฟุตบอลโอลิมปิกเมื่อปี 1920 แต่ก็ยังพัฒนามาเรื่อยๆ
ยูโกสลาเวียได้แข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ในทันที ซึ่งพวกเขาก็ไปได้ไกลถึงรอบรองชนะเลิศเลยทีเดียว แต่ถ้าหากนับแค่ประวัติศาสตร์ทีมชาติเซอร์เบียจนถึงตอนนี้ก็มีโอกาสเล่นฟุตบอลโลกแค่ในปี 2010 และ 2018 โดยที่จบลงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
ทีมชาติเซอร์เบียตอนนี้ถือว่าน่ากลัว เพราะพวกเขามีดาวดังมากขึ้น และมีผู้เล่นที่น่าสนใจมากมายภายในทีม กองหน้าคู่ของพวกเขาอย่างอเล็กซานดรา มิโตรวิช และ ดูซาน วลาโฮวิช พร้อมถล่มประตู โดยที่นักเตะที่สร้างสรรค์ด้านหลังพวกเขาคือดูซาน ทาดิช โดยที่หลายคนอาจไม่รู้แต่ มิโตรวิชและวลาโฮวิชเข้าขากันอย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว
มากไปกว่านั้นการที่พวกเขามีฟิลิป คอสติช สร้างสรรค์จากเกมริมเส้นในฐานะวิงแบ็ค และ เซอร์เก มิลินโควิช ซาวิช สร้างเกมจากแดนกลาง ส่งผลให้เซอร์เบียเข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่มแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในกลุ่มเดียวกับชาติยักษ์ใหญ่อย่างทีมชาติโปรตุเกสก็ตาม นั่นอาจมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจแสดงศักยภาพให้ได้เห็นกันอีกครั้งในฟุตบอลโลกหนนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่น
ในฐานะทีมชาติเซอร์เบียพวกเขาเคยเล่นฟุตบอลโลกมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือในปี 2010 และ 2018 ซึ่งพวกเขาไปได้ไกลที่สุดคือตกรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น แต่หากนับในประวัติศาสตร์รวมยูโกสลาเวียไปด้วยพวกเขาก็ไปได้ไกลที่สุดในรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกครั้งแรกเมื่อปี 1930
นักเตะเด่น : ดูซาน ทาดิช
สำคัญมากๆสำหรับกัปตันทีมชาติเซอร์เบียอย่างทาดิช เขาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์สุดๆและมีอายุมากที่สุดในทีมที่ 33 ปี เขามีความฉลาดในการเล่นและมีความเป็นผู้นำสูง พร้อมที่จะปลุกทีมให้ลุกขึ้นมาสู้ได้เสมอ เขาถือเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในทีมชาติเซอร์เบีย และกล้าบอกได้เลยว่าคงยากที่จะหาตัวแทนที่ยอดเยี่ยมกว่าเขาได้
-----
สวิตเซอร์แลนด์ : หลากหลายแต่เป้าหมายเดียวกัน
ปูมหลังด้านฟุตบอล
ช่วงเริ่มต้นสำหรับฟุตบอลทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ จะเป็นการโฟกัสไปถึงโอลิมปิกที่ปารีสในปี 1924 ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างทีมจนได้เหรียญเงินกลับมาครองได้ในทันที หลังแพ้ให้กับทีมชาติอุรุกวัย ก่อนที่จะมีการต่อยอดไปสู่ฟุตบอลโลก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้าร่วมในฟุตบอลโลกครั้งแรก แต่พวกเขาก็ได้เข้าร่วมในฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ในปี 1934
ผลงานที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกของพวกเขาต้องย้อนไปไกลในฟุตบอลโลกยุคแรก พวกเขาได้แข่งขันในฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในปี 1934 และไปได้ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ โดยนั่นคือผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา ซึ่งสามารถทำได้ 3 ครั้งด้วยกัน ในปี 1934,1938 และ 1954 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
โดยที่ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ถือว่ามีพื้นฐานที่อาจจะแตกต่างจากหลายประเทศ เพราะพวกเขามีความหลากหลายของเชื้อชาติมากๆ นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะในโลกเราก็มีผู้คนที่อาจแตกต่างกันแต่มาอยู่ร่วมกันในที่เดียวกันได้ เราจะเห็นว่าสวิตเซอร์แลนด์เป็นทีมที่น่าสนใจเสมอ มีนักเตะที่น่าสนใจมากมายแม้ว่าอาจยังโชว์ผลงานเด่นในรายการระดับนานาชาติช่วงหลังไม่ได้ก็ตาม
ผลงานดีที่สุด
สำหรับฟุตบอลโลกพวกเขาเคยได้ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในปี 1934, 1938 และ 1954 ส่วนในยูโรพวกเขาไปได้ไกลที่สุดคือรอบก่อนรองชนะเลิศเช่นเดียวกัน ซึ่งเกิดขึ้นในยูโร 2020 ที่ผ่านมา
นักเตะที่โดดเด่น : กรานิต ชาก้า
ชาก้า กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีสุดๆกับอาร์เซนอล เขากลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง รวมถึงการได้รับอิสระในการมีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์เกมรุกนั่นยิ่งทำให้เขาอันตรายมากขึ้นในทีม เขาสำคัญทั้งในสโมสรและทีมชาติ เราได้เห็นกันมาแล้วในยูโร 2020 กัปตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์พร้อมนำทีมลุยฟุตบอลโลกหนนี้
ชาก้าพร้อมที่จะขับเคลื่อนทีมไปข้างหน้าเสมอ โดยที่ในคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาหวังให้ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ไปได้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
----
แคเมอรูน : หมอผีพร้อมร่ายมนตร์
ปูมหลังด้านฟุตบอล
แน่นอนว่าพวกเขาเริ่มต้นมาไม่ใช่ชาติที่แข็งแกร่งในด้านฟุตบอล กับการเข้าร่วมแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ในปี 1970 ที่พวกเขาผ่านเข้ารอบคัดเลือกไปได้พวกเขาก็ตกรอบแรกไป ก่อนที่จะค่อยๆพัฒนาจนสามารถคว้าอันดับที่ 3 ของรายการนี้ได้ในอีก 2 ปีถัดมา ในตอนที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพของรายการนี้
พวกเขามีโอกาสลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งแรกคือในปี 1982 ที่แข่งกันที่สเปน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วที่พวกเขาเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกมักจะจบที่รอบแบ่งกลุ่ม มีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาผ่านจากรอบแบ่งกลุ่มไปได้คือในฟุตบอลโลก 1990 ที่พวกเขาไปได้ไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเลยทีเดียว
ในการมาฟุตบอลโลกคราวนี้ ทีมชาติแคเมอรูนถือว่ามีความหลากหลายมากในเกมรุก การมีแวงซองต์ อาบูบาการ์นำในแนวรุกด้วยสัญชาตญาณกองหน้านั้นช่วยพวกเขาได้เยอะ รวมถึงอ็องเดร ฟร้องค์ ซัมโบ้ อ็องกิสซ่าที่กำลังโดดเด่นกับนาโปลี ไหนจะมีเอริค มักซิม ชูโปโมติงที่กำลังมั่นใจมากๆกับบาเยิร์น มิวนิค เชื่อได้เลยว่าพวกเขาจะมีแต้มกลับบ้านอย่างแน่นอนในการแข่งขันครั้งนี้ และหวังสร้างเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลโลกครั้งนี้
ผลงานระดับชาติที่โดดเด่นในอดีต
สำหรับภายในทวีปพวกเขาเคยคว้าแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์ได้ถึง 5 สมัยด้วยกัน ซึ่งถือว่าคว้าแชมป์ถ้วยนี้ได้มากที่สุดเป็นรองแค่ทีมชาติอียิปต์ชาติเดียวเท่านั้น ส่วนในฟุตบอลโลกผลงานที่ดีที่สุดคือการไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศในปี 1990 ซึ่งในปีนั้นพวกเขาแพ้ให้กับทีมชาติอังกฤษ
นักเตะเด่น : อ็องเดร ฟร้องค์ ซัมโบ้ อ็องกิสซ่า
หนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่สุดของสโมสรนาโปลีชั่วโมงนี้ อ็องเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ้ อ็องกิสซ่า คือผู้เล่นที่แฟนพรีเมียร์ลีกอาจจำกันได้ในช่วงเวลาที่เขาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรฟูแล่ม แต่ในตอนนี้เขาไปไกลกว่าผู้เล่นที่เหมาะสมกับทีมที่อยู่ในระดับหนีตกชั้นมากๆ
หนึ่งในสาเหตุที่นาโปลียังคงแข็งแกร่ง และไม่แพ้ใครในเซเรีย อา ตอนนี้ก็เป็นเพราะเขาด้วย พละกำลังที่มีสูงมากๆ บวกด้วยความมั่นใจ เขาพร้อมชนกับผู้เล่นทุกคนที่ขวางหน้า และมันคงเช่นกันกับในฟุตบอลโลกที่เขาก็พร้อมที่จะทำเต็มที่เพื่อชาติของเขา เพื่อสร้างสิ่งที่น่าเหลือเชื่อไม่ต่างกับที่เขาทำให้กับนาโปลี