ฝันร้ายของ "จอห์น เทอร์รี" นัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2008 ที่ยังหลอกหลอนจนถึงวันนี้

05-29-2024
2นาทีที่อ่าน
Getty Images

เมื่อพูดถึงเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่ดราม่ามากที่สุดนัดหนึ่ง การพบกันระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี เมื่อปี 2008 คงเป็นตัวเลือกในใจหลายคน

เพราะโมเมนต์ที่ยังตราตรึงผู้ชมไม่รู้ลืม คือการพลาดจุดโทษชี้ชะตาของจอห์น เทอร์รี ที่ทำให้ตำแหน่งเจ้ายุโรปหลุดมือทีมดังจากลอนดอนไป นี่คือฝันร้ายครั้งใหญ่ที่สุดของนักเตะรายนี้ และแม้เวลาจะผ่านไปนาน 16 ปี เขาก็ยังลืมเรื่องราวเหล่านี้ไม่ลง

วันที่เชลซีฝันสลายเพราะเทอร์รี

ย้อนกลับไปยังวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2008 การแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2007-08 กำลังถึงจุดไคล์แมกซ์ เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี ต้องตัดสินหาแชมป์ด้วยการยิงจุดโทษ หลังเสมอในการแข่งขัน 120 นาที ด้วยสกอร์ 1-1

การดวลจุดโทษดำเนินมาถึงคนที่ 5 จอห์น เทอร์รี ปราการหลังกัปตันเดินออกไปทำหน้าที่ปิดเกม เพราะทีมของเขายังยิงไม่พลาดแม้แต่ลูกเดียว ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด ยิงพลาดในโอกาสครั้งที่สามของทัพปีศาจแดง หากเทอร์รียิงประตูเข้าไปเป็นคนสุดท้าย เชลซีจะคว้าแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่สมัยแรกได้ทันที

โชคร้ายที่เทอร์รีลื่นล้มในจังหวะก้าวเท้ายิงจุดโทษ ลูกบอลลอยเหินข้ามคานไปไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสที่สองในค่ำคืนนั้น ก่อนคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ เมื่อ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ผู้รักษาประตูจอมเก๋าสามารถเซฟลูกยิงของนิโกลา อเนลกา เอาไว้ได้

“ภาพมันเบลอนิดหน่อยถ้าให้ผมพูดความจริง” เทอร์รี เล่าถึงความรู้สึกหลังการแข่งขันนัดดังกล่าวจบลงง ผมกลับถึงโรงแรมโดยรู้สึกเหมือนทำให้เพื่อนร่วมทีมผิดหวัง แชมเปียนส์ลีกเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ยากที่สุดที่จะคว้าชัยชนะ ผมคิดแบบนั้น”

“ผมกำลังคิดว่า ‘ผมไม่แน่ใจว่าเราจะมีโอกาสนี้อีกครั้ง’ ผมเพียงแค่แบกน้ำหนักนั้นติดตัวไปตลอด นักเตะทุกคนจึงอยู่ในบาร์หลังจากนั้น แน่นอนพวกเขาไม่ได้เฉลิมฉลองเพราะมันไม่มีอะไรให้ฉลอง ส่วนผมเองลงไปเผชิญหน้ากับพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ความผิดหวังที่ยากจะแบกรับ

เทอร์รีต้องแบกรับหลายสิ่งอย่างมากมายหลังจากวันนั้น ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าความผิดพลาดของเขาคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เชลซีพลาดถ้วยบิ๊กเอียร์ เจ้าตัวยอมรับในภายหลังว่าเขาอับอายที่จะเผชิญกับผู้คน แม้กระทั่งครอบครัวของเทอร์รีเอง เขาเก็บตัวอยู่คนเดียวเป็นเวลานานในห้องพักที่โรงแรม ก่อนเพื่อนร่วมทีมเชลซีส่วนหนึ่งจะชวนเขาลงไปที่บาร์ร่วมกันในภายหลัง

“เมื่อมองย้อนกลับไป ผมอารมณ์อ่อนไหวมากในตอนนั้น และถ้าให้ผมพูดตามตรง วันนั้นผมคงรู้สึกแย่จริง ๆ ผมจำได้ว่าตัวเองอยู่ที่ห้องพักในโรงแรม กำลังนั่งคิดถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด”

โชคดีของเทอร์รีที่ทุกคนรอบกายเข้าใจดีว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับอะไร อีกไม่กี่วันถัดมาที่เขาเดินทางเข้าร่วมแคมป์ทีมชาติอังกฤษ 

ไม่มีนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนใดหยอกล้อเรื่องความพ่ายแพ้ของคู่แข่งแบบที่พวกเขาชอบทำมาตลอด บรรดาแข้งปีศาจแดงต่างนั่งกินข้าวร่วมกับเทอร์รี โดยไม่มีใครพูดเรื่องนัดชิงแชมป์เปียนส์ลีกสักคำ เพราะทุกคนรู้ดีว่าเรื่องนี้คือฝันร้ายของเทอร์รี

Scroll to Continue with Content
Getty Images

ความผิดหวังในตัวเองกัดกินเทอร์รีเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งหลังจากนั้น เจ้าตัวไปไกลถึงขั้นไม่รู้สึกดีใจที่ทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษในช่วงซัมเมอร์ปีดังกล่าว 

เพราะเขาจมอยู่กับความคิดเพียงว่า ทำไมเขาถึงไม่สามารถทำประตูให้กับเชลซีในเกมแชมป์เปียนส์ลีก โดยเทอร์รีถึงกับบอกว่า หากเขามีอำนาจเปลี่ยนความจริงที่เกิดขึ้นได้ เขายอมพลาดประตูที่ยิงให้ทัพสิงโตคำราม เพื่อยิงจุดโทษเข้าประตู และส่งเชลซีเป็นเจ้ายุโรปในปี 2008

ฝันร้ายที่ยังหลอกหลอน

เทอร์รีต้องรอคอยจนถึงปี 2012 กว่าเขาจะสามารถชดเชยความผิดพลาดของตัวเองได้บ้าง หลังเชลซีสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และเขาในฐานะกัปตันทีมได้ก้าวไปชูถ้วยบิ๊กเอียร์สมใจ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การไถ่บาปโดยสมบูรณ์ของเทอร์รี เพราะเขาติดโทษแบนในนัดชิงชนะเลิศ หมายความว่าเขาทำได้แค่นั่งดูเพื่อนลงเล่นในเกมที่เชลซีชนะบาเยิร์น มิวนิค ด้วยการดวลจุดโทษ

Getty Images

หากนับจากวันที่เขาพลาดจุดโทษ เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วที่เขาผ่านฝันร้ายครั้งนั้นมา และถึงแม้เทอร์รีจะทำทุกอย่างเพื่อลบล้างความผิดหวังในตัวเอง ทั้ง เข้าพบผู้เชี่ยวชาณเพื่อเข้ารับคำปรึกษา หรือเขียนจดหมายขอโทษต่อความผิดหวังครั้งนั้นอย่างเป็นทางการ แต่จนถึงทุกวันนี้ จอห์น เทอร์รี ยอมรับว่าฝันร้ายครั้งนั้นยังตามหลอกหลอนเขามาถึงในปัจจุบัน

“ผู้คนมักมองไม่เห็นเห็นด้านเหล่านี้ของนักเตะ พวกเขาเห็นแต่ความตื่นเต้นเร้าใจ และอย่าเข้าใจผมผิด พวกเรามีความเป็นอยู่กับชีวิตที่ดี แต่ทุกอย่างมีขึ้นมีลง ระหว่างทางชีวิตผมก็เช่นกัน”

“แชมป์เปียนส์ลีกเกมนั้น วันที่ผมพลาดจุดโทษ เรื่องราวเหล่านั้นยังคงอยู่กับผมจนถึงทุกวันนี้ ผมมักจะตื่นขึ้นมากลางดึก และมันก็ยังอยู่ตรงนั้น แชมป์เปียนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ วันที่ผมพลาดจุดโทษ”

“คุณมีความสำเร็จมากมาย แต่มันแปลกที่คุณยังจำความผิดพลาดเหล่านั้น แต่ที่สำคัญกว่าคือคนอื่นก็จำมันได้เช่นกัน เรื่องนั้นทำให้ผมนึกถึงมันเสมอ” เทอร์รี่ กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand